ทุบซะน่วมโมนิก้าและทีมงาน

*เกมของตลาดหุ้นเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยากก็จริง แต่อย่างน้อยผู้เล่นต้องรู้จักพลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์ และไม่ควรยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ เพราะมันไม่ช่วยให้การลงทุนมีความคล่องตัว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพยายามจับสัญญาณการลงทุนในเที่ยวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ หลังผู้เล่นขาใหญ่ในตลาดหุ้นหันมาเล่นเกมแบบถึงลูกถึงคน บรรยากาศการลงทุนถึงดูไม่จืดไงล่ะค่ะ


*เกมของตลาดหุ้นเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยากก็จริง แต่อย่างน้อยผู้เล่นต้องรู้จักพลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์ และไม่ควรยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ เพราะมันไม่ช่วยให้การลงทุนมีความคล่องตัว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพยายามจับสัญญาณการลงทุนในเที่ยวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ หลังผู้เล่นขาใหญ่ในตลาดหุ้นหันมาเล่นเกมแบบถึงลูกถึงคน บรรยากาศการลงทุนถึงดูไม่จืดไงล่ะค่ะ

*งานนี้ไม่ได้ถือโทษโกรธใครทั้งสิ้น เพราะมันเป็นเรื่องของ money game ซึ่งเหมือนกับประเด็นที่ “โมนิก้า” พยายามย้ำกับเหล่านักเล่นว่า ใครรู้ข้อมูลก่อนได้เปรียบ และวันนี้ก็ปรากฏภาพเช่นนั้นให้เห็นจริงๆ จึงไม่ต้องฟื้นฝอยหาตะเข็บอีกต่อไป เพราะสุดท้ายก็คงไม่มีใครสนใจเรื่องราวที่ผ่านมา ส่งผลให้การเข้าลงทุนในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของความไวเพียงอย่างเดียว ส่วนเรื่องอื่นไว้คุยกันทีหลังนะจะบอกให้

*วานนี้ถึงเห็นดัชนีโดนถล่มลงไปกองอยู่ที่ 1,560.67 จุด ก่อนจะมีการไล่กลับขึ้นมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายปิดที่ระดับ 1,573.37 จุด บวกไป 1.13 จุด ด้วยมูลค่า 6.60 หมื่นล้านบาท มันผิดไปจากที่ “โมนิก้า” เกริ่นนำไว้ข้างต้นหรือเปล่า? เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ทำให้รู้ว่า หุ้นที่โดนสาดทิ้งอย่างไร้เหตุผล มักพบเจอกับข่าวร้ายที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นประจำ หลังจากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้..โหดขั้นเทพไหมล่ะจ๊ะ

*เหมือนเกมที่เกิดขึ้นกับ AOT ในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา น่าจะเป็นการสะท้อนแง่มุมของสัญญาณทางเทคนิคได้ค่อนข้างดี เพราะหุ้นโค้งตัวลงมาอย่างชัดเจน เป็นใครก็ต้องโดดหนีกันจ้าละหวั่น ส่วนเรื่องข่าวสารที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ก็เป็นอะไรที่น่าเจ็บใจเหลือเกิน เพราะดูเหมือนจะมีเจตนาทุบหุ้นเพื่อเอาของถูก ก่อนจะออกมาชี้แจงเป็นขั้นเป็นตอนว่า หากต้องจ่ายค่าเช่าเพิ่มก็ตกปีละ 100 ล้านบาท..ไม่ใช่ 4,000 ล้านบาท หุ้นถึงเด้งจาก 37.25 บาท ขึ้นมาปิดที่ 39 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่า 1.10 หมื่นล้านบาท ทำเอาเม่าด่ากันระงมไปทั่วห้องค้าเลยทีเดียวนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ PTT  กระชากขึ้นมาปิดที่ 397 บาท บวกไป 11 บาท หรือขึ้นไป 2.85% ด้วยมูลค่า 4.17 พันล้านบาท มันเป็นเกมที่เล่นกับความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันล้วนๆ ผสมผสานกับพวกนักลงทุนสถาบันตัวแสบขยันออกของตลอดเวลา ส่งผลให้ภาพในระยะสั้นดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่? แถมการเด้งขึ้นเที่ยวนี้ขึ้นมาชนแนวต้านจังเบ้อเร่อ โอกาสที่หุ้นจะไปต่อเลยเหลือแค่ 50:50 นะจะบอกให้

*คล้ายคลึงกับกรณีของ PTTGC กับ TOP เด้งขึ้นปิดตรงบริเวณแนวต้านสำคัญด้วยกันทั้งคู่ โดยรายแรกปิดที่ 70 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 1.45 พันล้านบาท ส่วนรายหลังปิดที่ 74.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 680 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตเดิมพันค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เพราะมันเคยเห็นกันมาแล้วว่า ผ่านไปไม่ได้สักทีนะซี

*เม้าท์ถึงเรื่องดังกล่าวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดู BLAND อีกสักหน่อยดีกว่า หลังหุ้นโดนถล่มยับเยินภายในระยะเวลา 2 วัน ทั้งที่ตอนขึ้นมาเรื่อยๆ ใช้เวลานานถึงเดือนครึ่ง มันเป็นพฤติกรรมที่ฟ้องให้รู้ว่า หุ้นตัวนี้มีเจ้ามือขาโหดอยู่เบื้องหลัง เพราะโดยปกติทั่วไปหุ้นไม่น่าจะรูดลงหนักมาปิดที่ 1.83 บาท ลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 6.15% ด้วยมูลค่า 1.22 พันล้านบาท วันนี้หากจะเคาะขวาต้องดูลาดเลาให้ดีก่อนนะคะ

*เหมือนกับในรายของ ALT โดนรินออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ไม่ผ่านแนวต้าน 10.50 บาท แต่ทรงของหุ้นก็ยังพอไปวัดไปวาได้ และไม่น่าจะมีอะไรผิดสำแดงเกิดขึ้น จู่ๆ กลับมีแรงเทขายออกมาเป็นจำนวนมาก จนหุ้นรูดลงมาปิดที่ 9.10 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือลงไป 7.10% ด้วยมูลค่า 470 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการเขย่าเอาของแบบโหดร้าย จนต้องถอยร่นมาดูจุดรับของที่บริเวณ 8.70 บาทเป็นที่แรกเจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่โดนจัดหนักจัดเต็ม “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่ SQ เป็นรายถัดมาในทันที หลังไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 5.50 บาทขึ้นไปได้ ก็ถูกเทขายออกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึง รอบทิ้งหนัก..แล้วดันกลับ ต่อจากนั้นก็ไม่เคยเห็นมุมหวานๆ ของหุ้นตัวนี้อีกเลย บวกกับวานนี้หุ้นลงมาปิดที่ 4.92 บาท ลบไป 0.18 บาท หรือลงไป 3.50% ด้วยมูลค่า 245 ล้านบาท เดี๊ยนขอบอกตามตรงว่า หุ้นเริ่มเสียทรงแล้วนะจ๊ะ

*ส่วนในรายของหุ้นยอดนิยมอย่าง EA มีอะไรหลายอย่างเป็นไปตามที่ “โมนิก้า” ได้เกริ่นนำไว้ตั้งแต่วันที่มีเรื่อง ส.ป.ก. เกิดขึ้นว่า เที่ยวนี้คนมีเงินเย็นช้อนซื้อหุ้นได้อย่างสบายใจเฉิบ เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ติดกระดุมเม็ดแรกถูกตั้งแต่ต้น กระดุมเม็ดถัดมาก็เลยติดถูกไปด้วย หุ้นเลยเด้งขึ้นมายืน 26 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 7.40%  ด้วยมูลค่า 440 ล้านบาท แถมทุกฝ่ายช่วยหาทางออกแบบ win-win เป้าหมาย 30 บาทเลยไม่ไกลเกินเอื้อมไงล่ะจ๊ะ

*ตบท้ายกันที่หุ้นน้องใหม่ ETE ปิดตลาดไปที่ระดับ 5.75 บาท บวกไป 1.55 บาท หรือขึ้นไป 37% ด้วยมูลค่า 2.24 พันล้านบาท “โมนิก้า” กลับมองเป็นเกมที่สวยงามตามท้องเรื่อง เพราะเป็นการย่อตัวลงมาให้นักเล่นเข้ามาเก็บของอีกรอบ บวกกับของดีที่มีอยู่ในมือยังเอาออกมาโชว์ไม่หมดแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่นักลงทุนต้องกลับไปทำการบ้านเพิ่มเติม..งานนี้คนที่รู้ดีสุดว่า หุ้นตัวนี้เลิศสะแมนแตนขนาดไหน? คงหนีไม่พ้น “น้องหนึ่ง” อีกแล้วค่ะท่าน!

Back to top button