BTS เจ็บเก่า ไม่เคยลืมแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ทันทีที่ทราบผลประกอบการงวดไตรมาสสามของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ราคาหุ้นก็ร่วงลงยิ่งกว่านกปีกหัก ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน


ทันทีที่ทราบผลประกอบการงวดไตรมาสสามของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS  ราคาหุ้นก็ร่วงลงยิ่งกว่านกปีกหัก ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

ยังดีที่ไม่หลุดไปใต้ 8.00 บาท ไม่งั้นเป็นเรื่องทันที…จะมีอะไรล่ะ ก็ติดยอดดอยนะสิคร้าบบบบบ

ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ที่แรงขายของนักลงทุน จะพากันออกมาแรง ไม่เชื่อคำชี้แนะของนักวิเคราะห์ที่พากันออกมาบอกว่า ราคาหุ้น VTS ต่ำเกินพื้นฐานแล้ว ต้องซื้อ หรือ ถือ เพราะราคายุติธรรมอยู่ที่ 9.30-10.00 บาท

เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว จากนี้ไป บุญเก่าของ BTS ที่เคยได้รับมา 3 ปี จบลงไปแล้ว เหลือแต่บุญใหม่ที่กำลังรอสะสมอยู่ และยังต้องรอรับรู้ในอนาคต ซึ่งเหลืออีกหลายไตรมาสกว่าจะบันทึกเป็นชิ้นเป็นอัน

หากไม่ลืมกัน ปีนี้ จะเป็นปีแรกที่ BTS จะไม่มีกำไรพิเศษจากการขายเงินทรัพย์สินคือ สัมปทานเดินรถในอนาคตของบริษัทลูกคือ BTSC เข้าไปยังกองทุน BTSGIF เมื่อปี 2556 ซึ่งครั้งนั้น มีการระบุชัดเจนว่ามีกำไรประมาณ 21,000 ล้านบาท

กำไรพิเศษอู้ฟู่อย่างนั้น แทนที่ผู้บริหารที่นำโดยเจ้าสัว คีรี กาญจนพาสน์ จะทำใจป้ำ จ่ายปันผลก้อนใหญ่…ตามที่นักลงทุนพากันคาดหวัง พากันไล่ราคาแรงในช่วงดังกล่าวแรงจัด….อาจจะได้เห็นราคาหุ้น BTS ที่เหนือ 15 บาท นานมาแล้ว…แต่กลับทำสวนความรู้สึก ด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบ

BTS20170216

ครั้งนั้น นักลงทุนจำนวนมาก ทั้งขาใหญ่ ขาเล็ก ขาลีบ หรือ ขาเป๋…ต่างจำไม่เคยลืมกับคำแถลงชนิด “เหนียวกำไรสุดๆ ของ BTS ชัดๆ ว่า จะทยอยจ่าย 3 ปี แต่จะไม่จ่ายทีเดียวหมดแบบเทกระจาด”

ครั้งนั้น BTS ระบุว่า กำไรพิเศษ จะถูกกระจายไปจ่ายสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีถัดไปอีก 3 รอบ ได้แก่ รอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557-31 มีนาคม 2559 บริษัทฯ มีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจากกำไรสุทธิ และ/หรือกำไรสะสม เป็นจำนวนดังต่อไปนี้

1. ไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท  สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม 2557

2. ไม่น้อยกว่า 7,000 ล้านบาท  สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม 2558

3. ไม่น้อยกว่า 8,000 ล้านบาท  สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม 2559

ยิ่งไปกว่านั้น แถลงการณ์ยังมีน้ำเสียงในลักษณะ “ลำเลิกบุญคุณ” เล็กๆ ว่า ความสามารถของบริษัทฯ ในการจ่ายเงินปันผลเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 21,000 ล้านบาท ใน 3 รอบระยะเวลาบัญชีนั้น จะมาจากกำไรจากการดำเนินงานและกำไรพิเศษจากธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน…

โถ…พูดกันชัดอย่างนี้จะให้เข้าใจเป็นอย่างอื่นว่า BTS ใจป้ำคงไม่ได้ เพราะเงินปันผล 21,000 ล้านบาทนั้น เแทบจะไม่มีส่วนไหนมาจากกำไรปกติเลยน่ะสิ…ไม่มีใครกินหญ้ากินฟางนะจ๊ะ

ที่จริงแล้ว คำเตือนมีมายาวนานว่า แนวทางเลือกในการปรับวิธีการยืดอายุจ่ายปันผลใน 3 ปีข้างหน้า แทนการจ่ายครั้งเดียวหมด แม้ไม่ได้ทำให้มูลค่าของธุรกิจบนปัจจัยพื้นฐาน เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ตแต่จะกลายเป็น “ส้นเท้าของอาคีลีส” จากการที่สร้างความผิดหวังระยะสั้นให้กับตลาดที่สูญเสียโอกาสในการที่จะสร้างผลตอบแทนได้มากกว่านี้  และบริษัทก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมมากนักจากการถือเงินสดเอาไว้เฉยๆ ยาวนาน

จิตวิทยาเชิงลบต่อราคาหุ้นที่เข้าข่าย “เจ็บนี้ อีกนานนน”….ของนักลงทุน ยังไม่เลือนไปจากความทรงจำ แต่ก็จำต้องกล้ำกลืนฝืนทน จนกระทั่ง…3 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก

เมื่อการจ่ายกำไรพิเศษจบสิ้นไปแล้ว แต่การที่งบการเงินของ BTS กลับย่ำแย่ลง จนกระทั่งดูเหมือนว่า กำไรจากการดำเนินงานจากปกติ และจากเงินลงทุน เริ่มถดถอยลงอย่างชัดเจน ….ดูได้จากอัตรากำไรสุทธิงวด 9 เดือนของปี 2559-60 ที่ถดถอยลงชัดเจน การขายทิ้งก็กลายเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่ทางเลือก

รายได้หลักที่เพิ่มขึ้นจาก การรวมบริษัท MACO ในเดือน มิ.ย. และ จากการทำระบบให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มเหนือและใต้ และรายได้จากการให้บริการของบริษัทลูก แต่มีกำไรสุทธิในไตรมาสสาม (ตามงบการเงินที่มีงวดแปลกกว่า บจ.อื่นๆ ทั่วไป) ลดลง 40% จากระยะเดียวกันปีก่อน ต่ำกว่าที่ตลาดและนักวิเคราะห์คาด เพราะรายได้จากสื่อโดนกระทบ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสถานี BTS ค่าที่ปรึกษาในการซื้อขายกิจการ และแรงกดดันจากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการออกหุ้นกู้ใหม่ราว 2.2 หมื่นล้านบาทเพื่อทำโครงการรถไฟฟ้าก็เป็นสิ่งที่ย้ำว่า แม้ BTS จะเป็นกิจการที่มีอนาคต แต่ไม่ช่อนาคตของนักลงทุนที่ถือหุ้นของบริษัท

ภาพลักษณ์ของหุ้น BTS ที่เปลี่ยนไป จากการเป็น Dividend Stock กลายเป็น Growth Stock ซึ่งมีอัพไซด์จำกัดในอนาคตอันใกล้ จากการลงทุนหนักในโครงการรถไฟฟ้า การรับรู้รายได้อสังหาริมทรัพย์ในบริษัทร่วมทุนกับ SIRI ที่ต้องรออีกหลายไตรมาส  และการเติบโตของธุรกิจสื่อโฆษณาที่หดตัวลง…ทำให้เสน่ห์ของการถือ BTS ลดลงฮวบฮาบ

รักแค่ไหนก็คงต้องทิ้ง…เพราะเคยเข็ดหลาบมานานแล้วกับเหตุการณ์เดิมๆ ที่ชวนให้ขยาด

หุ้น BTS ยามนี้ ก็เลยกลายป็น สาวสวย ไร้เสน่ห์ ไปชั่วขณะ ไม่มีขีดจำกัดเสียด้วย

“อิ อิ อิ”

Back to top button