TACC ปูพรมปี 60 ลุยธุรกิจทั้งใน-นอกเซเว่นฯ ลุ้นรายได้-กำไรทำสถิติสูงสุด!

TACC ปูพรมปี 60 ลุยธุรกิจทั้งใน-นอกเซเว่นฯ ส่งเครื่องดื่มชูกำลัง “จั๊มพ์ สตาร์ท” ตีตลาดกัมพูชา คาดผลงานโตแจ่ม! ลุ้นรายได้-กำไร ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์


TACC ปูพรมปี 60 ลุยธุรกิจทั้งใน-นอกเซเว่นฯ ส่งเครื่องดื่มชูกำลัง “จั๊มพ์ สตาร์ท” ตีตลาดกัมพูชา คาดผลงานโตแจ่ม! ลุ้นรายได้-กำไร ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เปิดเผยว่าบริษัทได้เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลัง “จัมพ์ สตาร์ท” วางจำหน่ายในประเทศกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจครั้งสำคัญของบริษัทฯ เนื่องจากมองว่าตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังมีมูลค่าตลาดกว่า 1 หมื่นล้านบาท กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ หากสามารถเจาะตลาดนี้ได้สำเร็จจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

โดยบริษัทเตรียมส่งสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ขยายตัวมากกว่า 10-15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจ B2B ที่ขยายตัวตามร้านค้า 7-Eleven ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มในโถกดเย็น เครื่องดื่มในโถกดร้อน เครื่องดื่ม Non Coffee ในมุม All Café อีกทั้ง ยังได้รับปัจจัยหนุนจากสินค้าเบเกอรี่ โดนัทสไตล์ญี่ปุ่น และสินค้าลิขสิทธิ์ (Sanrio) โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องเขียน ซึ่งหลังจากมีการเปิดตัวสินค้าดังกล่าวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้บริโภค

“เรามั่นใจว่าเครื่องดื่มบำรุงกำลังจั๊มพ์ สตาร์ท ของเราจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้บริโภคเป้าหมายชาวกัมพูชา เช่นเดียวกับเครื่องดื่มชาเขียว Zenya ที่เราได้เข้าไปทำตลาดในช่วงก่อนหน้าจนเป็นแบรนด์ชั้นนำอย่างเต็มภาคภูมิ สำหรับ “จั๊มพ์ สตาร์ท” เป็นสินค้าพรีเมี่ยมและแตกต่างด้วยส่วนผสมจินเส็ง ชาเขียว และวิตามินรวม เจาะกลุ่มคนวัยทำงานรุ่นใหม่ หากคิดถึงเครื่องดื่มชูกำลังคุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่ให้สุขภาพ คิดถึง “จั๊มพ์ สตาร์ท” นายชัชชวีกล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมส่งเครื่องดื่มชนิดผง”สวัสดี” ไปบุกตลาดจีนภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ เพราะขนาดตลาดเครื่องดื่มชนิดผงระดับพรีเมี่ยมผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซมีอัตราการเติบโตที่สม่ำเสมอในระดับ 10-15% นับตั้งแต่ปี 2558

โดยบริษัทมั่นใจว่าแนวโน้มรายได้และกำไรในปี 2560 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ จากการที่ได้มีการแตกไลน์ธุรกิจ เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ในต่างประเทศ และมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งต้องขอขอบคุณผู้บริหารของเซเว่นฯ ที่ให้โอกาสบริษัทฯ ได้นำเสนอโปรดักท์ใหม่ กระจายในร้าน 7-Eleven ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้ของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

Back to top button