BLAND ไม่กังวลเจ้าหนี้เก่าฟ้องรอบ 2 เหตุคดีหมดอายุความไปนานแล้ว

BLAND ไม่กังวลเจ้าหนี้เก่าฟ้องรอบ 2 เหตุคดีหมดอายุความไปนานแล้ว


บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLAND มีประเด็นที่น่าจับตาอีกครั้งหลังบริษัทแจ้งตลาดฯ ตามที่บริษัท บางกอกแลนด์ (เคย์แมน ไอส์แลนด์) จำกัด “บริษัท บีแลนด์ เคย์แมน” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BLAND ที่ถือหุ้น 100% ได้ออกหุ้นกู้ ได้แก่ 1.หุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งออกเมื่อปี 36 และครบกำหนดไถ่ถอนตั้งแต่ปี 46 และ 2.หุ้นกู้สกุลเงินฟรังก์สวิส (CHF) ซึ่งออกเมื่อปี 37 และครบกำหนดไถ่ถอนตั้งแต่ปี 44

ทั้งนี้ บริษัทได้รับแจ้งจากตัวแทนในต่างประเทศว่ามีการยื่นฟ้องคดีซึ่งเกี่ยวเนื่องกับหุ้นกู้ทั้งสองรายการ ดังนี้

1. Deutsche Trustee Company Limited ซึ่งเป็น Trustee ของหุ้นกู้ USD ได้ยื่นฟ้องคดีต่อ Commercial Court of England เรียกให้บริษัท บีแลนด์ เคย์แมน ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ และบริษัทในฐานะผู้ค้ำประกัน ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยตามหุ้นกู้ USD ที่เหลืออยู่รวมจำนวนทั้งสิ้น 34,208,463.12 ดอลลาร์สหรัฐ

2. ผู้ถือหุ้นกู้รวม 7 รายที่ถือหุ้นกู้ CHF ร่วมกันยื่นคำร้องขอให้เลิกบริษัท บีแลนด์ เคย์แมน ต่อ Grand Court of Cayman Islands โดยอ้างเหตุว่าบริษัท บีแลนด์ เคย์แมน มีหนี้สินล้นพ้นตัวและไม่สามารถชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของหุ้นกู้ CHF ได้

BLAND ระบุว่า บริษัทอยู่ระหว่างจัดเตรียมและรวบรวมข้อมูลเพื่อต่อสู้คดี อย่างไรก็ตาม บริษัทเคยถูกฟ้องเรียกชำระหนี้หุ้นกู้ USD ดังกล่าวในประเทศไทย และศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศได้มีคำพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 30 เม.ย.58 เนื่องจากหนี้ดังกล่าวขาดอายุความแล้ว

ดังนั้น บริษัทฯ จึงคาดว่าบริษัทและ/หรือบริษัท บีแลนด์ เคย์แมน จะชนะคดีข้างต้นด้วย เนื่องจากคดีขาดอายุความ นอกจากนี้ บริษัทเห็นว่าคดีทั้งสองข้างต้นไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทแต่ประการใด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(17ก.พ.) ว่า บริษัทแจ้งตลาดฯเกี่ยวกับการได้รับหนังสือแจ้งฟ้องร้องของเจ้าหนี้ 2 กลุ่มในต่างประเทศ (ตั้งแต่สมัยก่อนวิกฤติต้มยำกุ้ง) ซึ่งเคยมีคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับบริษัทมานานในศาลไทยและคดีถึงที่สุดแล้วเมื่อปี 2558 (BLAND ชนะเนื่องจากหนี้ขาดอายุความ) โดยเจ้าหนี้กลุ่มดังกล่าวได้นำเรื่องไปฟ้องร้องต่อศาลต่างประเทศแทน คือ ที่ศาลอังกฤษ และศาล Cayman Islands รวมมูลค่าฟ้องร้องราว 1.8 พันลบ. (เงินต้น 14 ล้านเหรียญสหรัฐและ 26 ล้านฟรังค์สวิส + ดอกเบี้ยค้างชำระ) ซึ่งให้ความเห็นไว้ดังนี้

1) ที่มาของเจ้าหนี้กลุ่มดังกล่าว คือ บีแลนด์ เคย์แมน (บริษัทย่อย) มีการออกหุ้นกู้ตั้งแต่ปี 2536 (ค้ำประกันโดย BLAND) แบ่งเป็น 2 สกุลเงินคือ 150 ล้านเหรียญสหรัฐและ 400 ล้านฟรังก์สวิส ต่อมาเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งบ.ย่อยเริ่มผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่ปี 2541 แต่ก็มีการตกลงปรับโครงสร้างหนี้กันมาโดยตลอด (ซื้อหุ้นกู้คืนในราคา discount) จนเหลือเงินต้น 13 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และ  60 ล้านฟรังก์สวิส ซึ่งสุดท้ายในปี 2552 เจ้าหนี้เริ่มมีการฟ้องร้อง BLAND และบ.ย่อย โดยศาลชั้นต้นตัดสินในปี 2555 ยกฟ้อง BLAND เนื่องจากคดีขาดอายุความฟ้องร้องตามกฎหมาย (เกิน 10 ปี) และคงคำตัดสินเดิมที่ศาลฎีกา (30 เม.ย. 2558) และตัดรายการดังกล่าวออกจากงบแล้ว

2) เราตรวจสอบกับบริษัทอีกครั้งว่ามีเจ้าหนี้กลุ่มไหนที่มีโอกาสเกิดกรณีลักษณะนี้อีก โดยบริษัทยืนยันว่าไม่มีแล้ว ซึ่งกระบวนการต่อจากนี้จะต้องเข้าสู่การพิจาณาของศาลทั้ง 2 ประเทศและหาก BLAND แพ้ต้องมาบังคับคดีที่ไทย ซึ่งต้องเข้าสู่การพิจารณาของศาลในไทยอีกครั้ง

โดยมองว่าโอกาสเกิดความเสียหายจากการฟ้องร้องมีน้อย เพราะคดีขาดอายุความแล้วไม่สามารถบังคับได้อีกหรือหากเกิดขึ้นจริงยังต้องใช้เวลานาน (รอบก่อนเฉพาะกระบวนการในไทยใช้เวลา 6 ปี หรือในกรณีเลวร้ายสุด หากต้องชำระค่าเสียหาย 1.8 พันลบ.จะมีผลต่อ Fair value ลดลง 0.1 บาท/หุ้น เทียบกับราคาช่วง 2 วันที่ผ่านมาที่ลดลงไปกว่า 0.15 บาท

ด้านปัจจัยพื้นฐานยังคง Positive ต่อพัฒนาการที่จะเกิดขึ้นอย่างมีนัยฯในรอบหลายปี โดยซื้อขาย P/BV เพียง 0.79 เท่า เทียบกับ มูลค่าที่จะเพิ่มอีกมากในอนาคต หลังมีรถไฟฟ้าและโครงการต่างๆที่จะเกิดขึ้น หากราคาวันนี้ลดลงอีก มองเป็นจังหวะซื้อที่ดีราคาเป้าหมาย 2.80 บาท  

Back to top button