TASCO ทรุดจนเซ

ข้อมูลที่ทำให้อาจารย์มีความรู้สึกไม่ดีกับหุ้นตัวนี้คือ ตัวเลขกำไรในปี 59 ทรุดลงอย่างฮวบฮาบ ส่งผลให้ราคาเป้าหมายของหุ้นถูกปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ!


สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

 

คุณพิชิต จาก อ.เมือง จ.นครปฐม พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น TASCO หรือบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในหุ้นที่พาแมงเม่าขึ้นไปติดดอยเยอะแยะไปหมด และดูเหมือนเที่ยวนี้กำลังจะพาคณะใหม่ขึ้นไปเที่ยวดอยอีกรอบ จึงอยากให้อาจารย์ช่วยเตือนบรรดานักลงทุนที่คิดจะเข้ามาเล่นหุ้นตัวนี้ น่าจะเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ หรือเห็นท่าไม่ดีควรรีบถอยออกมาด่วนจี๋ครับ

 

ข้อมูลที่ทำให้อาจารย์มีความรู้สึกไม่ดีกับหุ้นตัวนี้คือ ตัวเลขกำไรในปี 59 ทรุดลงอย่างฮวบฮาบ ส่งผลให้ราคาเป้าหมายของหุ้นถูกปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ!

ตรงนี้เป็นเรื่องซีเรียสสำหรับอาจารย์ เพราะแสดงให้เห็นว่า TASCO หรือ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) ไม่ใช่หุ้นตัวเลือกหลักในการเข้าลงทุน เนื่องจากตัวธุรกิจเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับรายได้ และความสามารถในการทำกำไรนั่นเอง

ประเด็นดังกล่าวดูได้จากข้อมูลสำคัญทางการเงินที่แสดงความถดถอยในการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจนิดหนึ่งว่า ตัวเลขกำไรที่เห็นเติบโตเมื่อปี 58 เป็นผลมาจากตัวบริษัทมีการบันทึกกำไรจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น

เมื่อสถานการณ์ราคาน้ำมันกลับเข้าสู่ภาวะปกติ TASCO จึงเริ่มแสดงตัวเลขกำไรแบบปกติออกมา และในปี 60 จะเห็นภาพความชัดเจนดังกล่าวมากขึ้นไปอีก และถ้าดูราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ค่อนข้างทรงตัว ไม่ปรับตัวขึ้นอย่างหวือหวาเหมือนในอดีต วันนี้ถึงมองไม่เห็นจุดเด่นของหุ้นตัวนี้อีกต่อไปนะครับ

 

  ปี 56 ปี 57 ปี 58 ปี 59
รายได้รวม 34,140.37   46,249.06   37,580.11   24,037.76
กำไรสุทธิ 831.45   1,200.43   5,078.76   3,110.13
กำไรต่อหุ้น (บาท) 5.45   7.85   3.30   2.01

(หน่วย : ล้านบาท)

 

ถามว่า ราคาเหมาะสมของ TASCO ควรอยู่ในระดับไหน?

อาจารย์ขอตอบว่า ขึ้นอยู่กับผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 60 ออกมาดีตามคาดหวังหรือเปล่า?

หากออกมาดีตามคาดการณ์ อาจมีการปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีก(นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มให้เป็น 24-26 บาทแล้ว)

หากออกมาไม่ดี คงยืนราคาเป้าหมายที่บริเวณ 20-22 บาทอีกเช่นเคย

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่า เมื่อตัวเลขกำไรไม่หนุนนำ หุ้นก็ม่อยกระรอกอย่างง่ายดาย อาจารย์ถึงไม่มีความจำเป็นต้องไปตักเตือนอะไรมากมาย เพราะแค่ดีดตัวเลขก็เห็นกันอยู่แล้วว่า หากเอากำไรต่อหุ้นปี 59ที่ระดับ 2.01 บาท มาคำนวณบน P/E 10 เท่า ได้ราคาเป้าหมาย 20 บาท หากขยับขึ้นไปเป็น P/E 13 เท่า ได้ราคาเป้าหมาย 26 บาท หรือขยับขึ้นไปอีกนิดหนึ่งเป็น P/E 15 เท่า ราคาเป้าหมาย 30 บาท

อาจารย์ถึงไม่แคร์ว่า ใครจะซื้อ ใครจะขาย เพราะถือเป็นสิทธิ์ของนักลงทุน และตัวอาจารย์ได้ทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อย่างเต็มที่แล้วครับ

 

TASCO20170219

กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 17 ก.พ.60

Back to top button