Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Daily View - P.M. - บล.กสิกรไทย ประจำวันที่ 8 มี.ค.60


Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

 

Tactical Move

 

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

 

สรุปภาวะตลาดเช้า

SET Index ปรับลง 11.20 จุด (-0.72%) ปิดภาคเช้าที่ 1,538.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29,653.78 ลบ.

Most Positive Impact: PTT (+0.58 จุด), SCC (+0.49 จุด), PTTEP (+0.20 จุด)

Most Negative Impact: GL (-1.71 จุด), CPALL (-0.68 จุด), CPF (-0.61 จุด)

 

แนวโน้มตลาดบ่าย

เช้านี้ตลาดปรับลงแรงด้วยแรงกดดันจากกลุ่มการเงิน (-2.37 จุด) กลุ่มค้าปลีก (-1.65 จุด)และกลุ่มธนาคาร (-1.50 จุด) นอกจากนั้น ยังมีปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นผิดหูผิดตา เกือบ 3 หมื่นล้านบาท เทียบกับเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ 2.4 หมื่นล้านบาท

กลุ่มการเงินปรับลงหนัก 6.68% ถ่วงดัชนีลงหนักกว่า 2.37 จุด นำโดย GL ปรับร่วงรุนแรงกว่า 23% ซึ่งการปรับลดลงของ GL เป็นประเด็นที่เกิดจากผู้ตรวจสอบบัญชีตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับการปล่อยกู้ให้กับบริษัทลูกในสิงคโปร์ ซึ่งส่งผลให้เกิด Sentiment เชิงลบต่อกลุ่มการเงิน สินเชื่อเช่าซื้อโดยรวม อย่างไรก็ตามมองว่า กรณีของ GL เป็นกรณีเฉพาะตัว แรงกดดันต่อหุ้นอื่นๆในกลุ่มจึงน่าจะเป็นเพียงแค่ Panic Sell ระยะสั้น มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ SAWAD MTLS เพื่อลุ้นการฟื้นตัวในยามที่ตลาดคลายตกใจ

ด้วยหลายๆเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed การอ่อนค่าของปอนด์และยูโร รวมไปถึง Trumpds Trade ที่กลับมาอีกครั้ง ทั้งหมดจะทำให้ US Dollar แข็งค่ายาวในเดือน มี.ค. เป็นปัจจัยหลักที่กระทบต่อเงินบาทและกดดันให้ Fund Flow ไหลออก ซึ่งน่าจะทำให้ SET Index มีแววที่จะไหลลงได้อีก โดยดัชนีน่าจะ ลงทดสอบ PER 14.65 (-0.1 S.D.) และ 14.32 (-0.2 S.D.) ที่ 1,530 และ 1,500 จุด

จังหวะตลาดโดนเท เป็นโอกาสในการใช้กลยุทธ์ Bottom Fishing ตกปลาในบ่อลึก มอง KCE เป็นหุ้นเด่นจากราคาที่มีการปรับฐานลงมากว่า 20% ตั้งแต่ต้นปี จน Upside เปิดกว้าง 40% โดย KCE พบจุดต่ำสุดของกำไรไปแล้วในงวด 4Q16 คาดว่ากำไรของ KCE จะเริ่มฟื้นตัวในงวด 1Q และ 2Q ปี 2560 จากยอดขายที่เลื่อนการรับรู้ใน 4Q16 มาปี 2560 ราว 200 o 250 ล้านบาท นอกจากนั้นกำไรจะปรับขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วง 2H17 ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นมาอีก 24% จากเปิดใช้โรงงานลาดกระบังเฟส 3 แบบเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งนี้ในระยะสั้น KCE ได้ปัจจัยบวกจากราคาทองแดงที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จนลงมาที่ 5.7 พันเหรียญต่อตัน ต่ำกว่าสมมติฐานราคาทองแดงที่ KS Research วางไว้ 6 พันเหรียญต่อตัน ถือเป็น Positive Upside อีกทั้งแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาทที่มีโอกาสกลับไป 35.5 ในช่วงไตรมาส 2 จะเป็นอีกปัจจัย บวกต่อประสิทธิภาพการทำกำไร ปัจจุบัน KCE ซื้อขายกันที่ระดับ PER เพียง 14 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ 16 เท่า ขณะที่ยังคงคาด EPS Growth เฉลี่ย 20% ต่อปีในอีก 2 ปีข้างหน้า (สูงกว่ากลุ่มที่จะโตเฉลี่ยเพียง 14%) KS Research กำหนดมูลค่าพื้นฐานที่ 132 บาท

หุ้นแนะนำ: KCE MEGA SAWAD KTB

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: –

 

Alternative Trading:

SET50 Futures: S50H17 สถานะ Short 971.5 จุด ถือต่อเพื่อทำกำไรที่ 962 จุด

Back to top button