Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

 

Tactical Move

 

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

 

สรุปภาวะตลาดเช้า

SET Index ปรับลง 4.00 จุด (-0.26%) ปิดภาคเช้าที่ 1,547.73จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18,560.56 ลบ.

Most Positive Impact: BDMS (+0.63 จุด), AOT (+0.36 จุด), BAY (+0.19 จุด)

Most Negative Impact: PTT (-1.16 จุด), PTTEP (-0.81 จุด), PTTGC (-0.69 จุด)

         

แนวโน้มตลาดบ่าย

เช้านี้ตลาดปรับลงแรงด้วยแรงกดดันจากกลุ่มพลังงาน (-2.74 จุด) นำโดย PTT (-1.16 จุด) PTTEP (-0.81 จุด) ตามมาด้วยกลุ่มปิโตร (-0.85 จุด) นำโดย PTTGC (-0.69 จุด) ปริมาณการซื้อขายถอยกลับลงมาเหลือเพียง 1.9 หมื่นล้านบาท ตำกว่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ 2.4 หมื่นล้านบาท

ตลาดยังคงซึมซับโอกาศที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 14-15 มี.ค.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงถึง 96% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยวานนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ปรับขึ้นมา 2.38 bsp. จาก 2.795% ขึ้นมาที่ 2.819% และนับตั้งแต่ต้นปี ได้ปรับขึ้นมากว่า 15.35 bsp. จาก 2.666% ขึ้นมาที่ 2.819% ทั้งนี้ ทำให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มทีจะอ่อนค่าลงต่อ โดยมองว่ามีโอกาสกลับไป 35.5 ในช่วงไตรมาส 2

การใช้กลยุทธ์ “Bottom Fishing” ได้เลือก KCE เป็น Top pick วันนี้ราคาเริ่มรีบาวด์กลับขึ้นมา อย่างไรก็ตาม Upside ยังคงกว้างถึง 35% จาก Target price พื้นฐานของเราที่ Bt132 ทั้งนี้ เราเลือก KCE เนื่องจากเราคาดว่า บริษัทได้พบจุดต่ำสุดของกำไรไปแล้วในงวด 4Q16 โดยกำไรน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ในงวด 1Q และ 2Q ปี 2560 จากยอดขายที่เลื่อนการรับรู้ใน 4Q16 มาปี 2560 ราว 200 n 250 ล้านบาท นอกจากนั้นกำไรจะปรับขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วง 2H17 ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นมาอีก 24% จากเปิดใช้โรงงานลาดกระบังเฟส 3 แบบเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งนี้ยังมี 2 ปัจจัยภายนอกที่คาดว่าจะเป็นบวกต่อ KCE ได้แก่:

1) ราคาทองแดงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ได้ปรับลงมาที่จุดต่ำสุดในรอบ 8 อาทิตย์ที่ 5.7 พันเหรียญต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าสมมติฐานราคาทองแดงที่ KS Research วางไว้ 6 พันเหรียญต่อตัน ถือเป็น Positive Upside

2) แนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาท ด้วยหลายๆ เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed การอ่อนค่าของปอนด์และยูโร รวมไปถึง Trumpus Trade ที่กลับมาอีกครั้ง ทั้งหมดจะทำให้ US Dollar แข็งค่ายาวในเดือน มี.ค.ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยบวกต่อประสิทธิภาพการทำกำไร

ปัจจุบัน KCE ซื้อขายกันที่ระดับ PER เพียง 14 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ 16 เท่า ขณะที่ยังคงคาด EPS Growth เฉลี่ย 20% ต่อปีในอีก 2 ปีข้างหน้า (สูงกว่ากลุ่มที่จะโตเฉลี่ยเพียง 14%)

หุ้นแนะนำ: KCE KTB MEGA SAWAD

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: –

 

Alternative Trading:

SET50 Futures: S50H17 รอดูการทดสอบที่ 986 จุด ก่อนมากำหนดกลยุทธ์กันอีกครั้ง