SET บ่ายซึมตัว เลือกสอย 7 หุ้นเด่นมีปัจจัยหนุน

SET บ่ายซึมตัว ไร้ปัจจัยใหม่หนุนนำ พร้อมให้แนวฟิวเตอร์ไว้ที่ 1,555 แนวรับ 1,560 และแนวต้าน 1,580-1,590 จุดเลือกสอย 7 หุ้นเด่นมีปัจจัยหนุน นำโดย AOT KKP AAV SUSCO WORK PTTGC และ TPCH


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (23 มี.ค.) ซึมตัว ดัชนีฯแกว่งคล้ายตลาดภูมิภาค-ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย เนื่องจากกำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามา หลังจากที่มาตรการของ”ทรัมป์”อาจล่าช้า โดยเฉพาะเรื่องแผนลดภาษี เพราะต้องการจะทำ”อเมริกันเฮลธ์แคร์”ก่อน ดังนั้นถ้าเรื่อง”อเมริกันเฮลธ์แคร์”ล่าช้า ก็อาจจะทำให้อย่างอื่นล่าช้าไปด้วย ซึ่งตลาดฯก็จะไม่ดีส่วนปัจจัยในประเทศก็ไม่มีอะไรใหม่ รอดูตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า บ่ายนี้ตลาดฯคงซึม หลังยังไร้ปัจจัยที่มีนัยยะเข้ามา พร้อมให้แนวฟิวเตอร์ไว้ที่ 1,555 แนวรับ 1,560 และแนวต้าน 1,580-1,590 จุด

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึม ดัชนีฯเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย แม้แต่ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็บวกเล็กน้อย เนื่องจากตลาดฯกำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามา หลังจากที่มองว่ามาตรการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจล่าช้า โดยเฉพาะเรื่องแผนลดภาษี เพราะต้องการจะทำร่างกฎหมาย”อเมริกันเฮลธ์แคร์” มาแทนกฎหมายประกันสุขภาพ “Affordable Care Act (ACA)” หรือ “โอบามาแคร์”ก่อน ดังนั้น ถ้าเรื่อง”อเมริกันเฮลธ์แคร์”ล่าช้า ก็อาจจะทำให้อย่างอื่นล่าช้าไปด้วย ซึ่งตลาดฯก็จะไม่ดี

ส่วนปัจจัยในประเทศก็ไม่มีอะไรใหม่ ให้รอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะยังซึม เนื่องจากไม่มีปัจจัยที่มีนัยยะเข้ามาในตลาดฯ พร้อมให้แนวฟิวเตอร์ไว้ที่ 1,555 จุด ส่วนแนวรับ 1,560 จุด และมีแนวต้านที่ 1,580-1,590 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (23 มี.ค.) SET ฟื้นตัวตั้งแต่เปิดตลาด ตามการปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้นโลก นำโดย Laggard plays อย่าง AOT ที่ได้ผลดีจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา +5.5% ขณะที่เรายังมอง upside ระยะสั้นจะยังจำกัด โดยเน้นหุ้นปันผลสูงอย่าง KKP รวมไปถึงหุ้นที่กำไรไตรมาส 1/60 ออกมาดี อย่าง AAV SUSCO WORK PTTGC และ TPCH

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” WORK ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 62 บาท จากเม็ดเงินโฆษณาผ่าน Digital TV ขยายตัวดีกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก rating ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมี rating สูงเป็นอันดับ 3 รองจากช่อง 7 แลช่อง 3 (บางช่วงเวลามี rating สูงเป็นอันดับ 2) และปรับขึ้นค่าโฆษณาขึ้น 35% ตั้งแต่ต้นปี หนุนผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 และคาดการณ์กำไรทั้งปีที่ 579 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192% จากปีก่อน ขณะที่ทางเทคนิคอิง TradeCode อยู่ที่ “Let profit run” ลุ้นทดสอบแนวต้าน 57.75 บาท มีแนวต้านถัดไปที่ 61 บาท

 

สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

TASCO   มูลค่าการซื้อขาย 1,283.79 ล้านบาท ปิดที่  25.25 บาท ลดลง  1.25 บาท

CPF     มูลค่าการซื้อขาย 1,228.62 ล้านบาท ปิดที่  29.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

AOT     มูลค่าการซื้อขาย 1,199.47 ล้านบาท ปิดที่  40.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

PTT     มูลค่าการซื้อขาย   702.37 ล้านบาท ปิดที่ 402.00 บาท ลดลง  4.00 บาท

UNIQ    มูลค่าการซื้อขาย   522.52 ล้านบาท ปิดที่  17.50 บาท ลดลง  0.80 บาท

Back to top button