ASAP ลงสนามวันแรกน่าหวาดเสียว เทรดบน P/E เกือบ 30 เท่า!

ASAP ลงสนามวันแรกด้วย IPO 3.03 บาท เทรดบน P/E เกือบ 30 เท่า! หวั่นราคาร่วงหลุดราคาจอง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (30 มี.ค.) บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ด้วยราคา IPO ที่ 3.03 บาท

โดย นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASAP เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกในวันที่ 30 มี.ค.นี้ โดยใช้ชื่อย่อ ASAP ในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 210 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท แก่นักลงทุนเมื่อวันที่ 22-24 มี.ค.60 ที่ผ่านมาในราคาหุ้นละ 3.03 บาท ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี

ทั้งนี้บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 330 ล้านบาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วจำนวน 225 ล้านบาท หรือคิดเป็น 450 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท และจะเสนอขายหุ้น IPO อีกจำนวน 210 ล้านหุ้น

สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินบางส่วนไปใช้พัฒนาโครงการศูนย์รวมการให้บริการเกี่ยวกับรถยนต์แบบครบวงจร ‘asap Auto Park’ ย่านบางนา – ตราด ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ คาดว่าจะเปิดให้บริการเฟสแรกได้ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการภายในไตรมาส 1/61 ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ

ด้านภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ให้เช่าปีนี้ จะได้รับปัจจัยบวกจากกระแส Outsource ที่บริษัทภาคเอกชนขนาดใหญ่มอบหมายงานให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในงานนั้นๆ เข้ามาเป็นผู้ดำเนินงานแทน ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวของ ASAP จะขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากความต้องการของภาคเอกชนขนาดใหญ่หันมาใช้บริการที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่กลุ่มรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น จะได้รับอานิสงส์จากการเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศไทยที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางโดยสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airlines) ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทย รวมทั้งผู้ที่ต้องเดินทางไปทำกิจธุระในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศจำนวนมาก ทำให้มีความต้องการใช้บริการรถยนต์ให้เช่าเพื่อการเดินทางภายในประเทศเพิ่มขึ้น

“เรามีแผนรุกขยายธุรกิจรองรับโอกาสการเติบโตของธุรกิจรถยนต์ให้เช่าในไทย ด้วยจุดแข็งด้านประสบการณ์มากว่า 11 ปี ช่วยผลักดันการเติบโตที่ดีให้แก่ธุรกิจ จากฐานลูกค้ารถยนต์ให้เช่าระยะยาวสำหรับลูกค้านิติบุคคล ช่วยสร้างความมั่นคงด้านรายได้ หรือรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีจากอัตราค่าเช่ารถยนต์เพิ่มขึ้น ที่จะมีบริการใหม่ ๆ เพิ่มเติมให้แก่ลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันการเติบโตของ asap ปีนี้ได้อย่างมาก” นายทรงวิทย์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 59 บริษัทมีรายได้รวม 1,459.43 ล้านบาท เติบโต 34.37% จากปี 58 และมีกำไรสุทธิ 69.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.60% จากปี 58 มีกำไรสุทธิ 56.04 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค.59 บริษัทมีรถยนต์สำหรับให้บริการทั้งหมด 8,405 คันเพิ่มขึ้น 58.82% จาก ณ สิ้นปี 58 ซึ่งมีจำนวน 5,292 คัน

“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้ asap มีศักยภาพและความพร้อมในการขยายธุรกิจเพื่อรองรับโอกาสการเติบโตในอนาคต ภายใต้วิสัยทัศน์ของบริษัท ในด้านการให้บริการรถเช่าที่ครอบคลุมทุกด้าน ด้วยมาตรฐานการบริการเหนือความประทับใจ และสามารถสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายทรงวิทย์ กล่าว

 

ด้าน นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า ASAP ถือเป็นบริษัทรถยนต์ให้เช่าแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพในการผลักดันการเติบโตจากผลการดำเนินงานที่ดี เนื่องจากได้เตรียมแผนงานรุกขยายธุรกิจในด้านต่างๆ รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้ใช้บริการรถยนต์ให้เช่าของ ASAP ได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ASAP ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าภายใต้แบรนด์ “asap” ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร โดยมีบริการรถยนต์ให้เช่า 3 รูปแบบ ได้แก่ บริการรถยนต์ให้เช่าระยะยาว (Operating Lease) บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น และบริการรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ (Limousine)

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า ราคาหุ้น ASAP มีแนวโน้มปรับตัวไม่ถึงราคา IPO ที่ 3.03 บาท เนื่องจากราคาดังกล่าวนั้น เทรดบนค่า P/E ที่ระดับ 27.55 เท่า โดยคิดจากกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 0.11 บาท ขณะที่ P/E ตลาด (SET) ณ วันที่ 28 มี.ค.60 อยู่ที่ 17.39 เท่า ส่วนค่า P/E กลุ่มเงินทุนแหละหลักทรัพย์ อยู่ที่ระดับ 18.64 เท่า

Back to top button