“ทวิช” ร่อนหนังสือถึง “หมอวิชัย” เตือนหยุดสอดไส้วาระการประชุม

"ทวิช" ร่อนหนังสือถึง "หมอวิชัย" ร้องจัดประชุมคณะกรรมการอย่างถูกกฎหมาย เตือนหยุดสอดไส้เรื่องอื่นเพื่อหวังเอาชนะ ขวางผู้ถือหุ้นใหญ่เข้าฟื้นฟูกิจการ


นายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ทำหนังสือถึงนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ IFEC พร้อมสำเนาถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. และเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อเรียกร้องให้ประธาน IFEC จัดการประชุมคณะกรรมการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเสนอวาระที่สำคัญที่บริษัทจดทะเบียนใน ตลท.พึงปฏิบัติ โดยประเด็นสำคัญ คือ วาระการรับรองงบการเงินประจำปี 59 และการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี

นายทวิช กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัทควรกำหนดวาระให้ชัดเจน ไม่ใช่มีการสอดไส้เรื่องอื่นเพื่อหวังเอาชนะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่เข้ามาเป็นกรรมการเพื่อฟื้นฟูธุรกิจของบริษัท เรียกความเชื่อมั่นเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้น เพราะโจทย์ใหญ่ของ IFEC ขณะนี้คือการปิดงบการเงินของรอบบัญชีปี 59 ให้ทันตามที่กฎหมายกำหนด และกำหนดแนวทางแก้ปัญหาหนี้ตั๋วแลกเงิน (บี/อี) รวมถึงแผนการฟื้นฟูกิจการให้กลับมาแข็งแกร่งดังเดิมเพื่อเดินหน้าธุรกิจ และปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย (SP) หลักทรัพย์ของ IFEC

แต่ที่ผ่านมาประธาน IFEC กลับเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เพื่อรับรองและแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ทดแทนกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระ เพียงต้องการขัดขวางการเข้ามาทำหน้าที่กรรมการของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ได้รับเลือกเข้ามาถึง 5 คนในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อครั้งที่ผ่านมา

“หมอวิชัยควรหยุดเล่นเกมได้แล้ว และควรดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด อย่างที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และก.ล.ต.เตือน ซึ่งผมและบอร์ดชุดใหม่กังวลเรื่องนี้เป็นอย่างมาก” นายทวิช กล่าว

นายทวิช กล่าวอีกว่า ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานกำกับอย่าง ก.ล.ต.และ ตลท.ต้องเข้ามาจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งกรณีการนำหุ้นบริษัทย่อย คือ ICAP ที่มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทไปจำนองให้กับเจ้าหนี้แลกกับจำนวนหนี้เพียง 200 ล้านบาท การนำโรงไฟฟ้าชีวมวลไปขายโดยได้รับเงินมัดจำมาแล้ว 50 ล้านบาท

“ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่ใหญ่มากต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดชุดใหญ่ แต่นายวิชัยยังกล้าที่จะกระทำเรื่องดังกล่าวลงไป หากปล่อยให้นายวิชัยที่ถือหุ้นในสัดส่วนเพียงแค่ 2% ดำเนินการอย่างนี้ และทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้กุมอำนาจบริหารงาน ท้ายที่สุดแล้ว จะทำให้เกิดบรรทัดฐานที่ผิดๆ ทำลายความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย ในสายตาของนักลงทุนไทยและต่างประเทศ” ายทวิช กล่าว

นอกจากนั้น นายทวิช ยังกล่าวว่า หากประธานกรรมการ IFEC ตั้งใจจะเดินหน้าพลิกฟื้นบริษัทตามที่กล่าวอ้างมาโดยตลอด จะต้องกำหนดวาระการประชุมคณะกรรมการให้ชัดเจน มีรายละเอียดให้กรรมการชุดใหม่ได้พิจารณา และที่สำคัญต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะกังวลว่าสิ่งที่ประธาน IFEC เร่งดำเนินการอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายให้บริษัท โดยเฉพาะการประชุมคณะกรรมการที่กำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.60 นี้ จึงอยากให้สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นใน IFEC เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้นมากกว่านี้

“จริงๆแล้ว ต้องมีการพิจารณางบการเงิน และเดินหน้าฟื้นฟูกิจการของบริษัท ไม่ใช่เพียงแค่การเดินทางมาร่วมประชุมเพียงแค่รับรองรายงานการประชุม และแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ เพราะสิ่งที่นักลงทุนอยากรู้คือ เกิดอะไรขึ้นกับ IFEC สถานะทางการเงินที่แท้จริงเป็นอย่างไร แล้วมีแผนจะดำเนินการอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจบริษัท” นายทวิช กล่าว

Back to top button