SET บ่ายแกว่งบวก-ลบ โบรกฯ ชู 6 หุ้นเด่นน่าสอย มีปัจจัยหนุน

SET บ่ายแกว่งบวก-ลบ ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,565 แนวต้าน 1,575 จุด โบรกฯ ชู 6 หุ้นเด่นน่าเก็บ มีปัจจัยหนุน นำโดย KKP TISCO PTTGC SCC AP และ ESSO


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (24 เม.ย.) แกว่งแคบสอดคล้องภูมิภาครับผลเลือกตั้งฝรั่งเศลตามคาดทำให้มี Sentimemt เชิงบวก แต่ตลาดฯเจอแรงขายทำกำไรออกมาด้วยจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์เกาหลีเหนือ รวมถึงในประเทศก็ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ บ่ายนี้ตลาดฯน่าจะแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,565 แนวต้าน 1,575 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมา ดัชนีฯเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบๆ  เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยมี Sentiment เชิงบวกจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศลที่ออกมาตามคาด ซึ่งนายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ และนางมารีน เลอเปน ผู้สมัครจากพรรค National Front (FN) เป็น 2 ผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุดในรอบแรก

ขณะที่ก็มีแรงขายทำกำไรออกมา จากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีที่ยังมีความไม่แน่นอน และยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ หลังจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกไปแล้วออกมาดีกว่าคาด แต่ก็ยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ ทำให้ดัชนีอาจจะดูซึม ๆ และนักลงทุนต่างชาติอิงทางด้านขายมากกว่า

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ดัชนีฯน่าจะเคลื่อนไหวทั้งบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.) SET Rebound จำกัด และภาพรวมระยะสัปดาห์ยังอ่อนแอ การ Rebound ตามตลาด ตามตลาดหุ้นโลกในช่วงเปิดตลาดเป็นไปอย่างจำกัด แม้ผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสจะเอื้อต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกก็ตาม ขณะที่ภาพกลยุทธ์ยังเน้น “Selective” ในกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสถูก Consensus ปรับประมาณการกำไรขึ้นอย่าง KKP TISCO รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 1/60 ออกมาดีอย่าง PTTGC SCC AP และ ESSO

ขณะที่ส่งออกเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 9.2% จากปีก่อน หนุนดุลการค้าเกินดุลต่อ US$1.62 ล้าน กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการค้าเดือน มี.ค. ส่งออก เพิ่มขึ้น 9.2% ที่ US$20,888 ล้าน ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่นำเข้า เพิ่มขึ้น 19.3% ที่ US$19,271 ล้าน ส่งผลดุลการค้าเกินดุล US$1.62 พันล้าน

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” PTTGC ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 84 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก คาดกำไรไตรมาส 1/60 แข็งแกร่ง สนับสนุนโดย Spea ปิโตรฯ โดยเฉพาะ LDPE และ LLDPE สูง ขณะที่การซื้อธุรกิจ Polypropylene จาก PTT และกำลังการผลิต LDPE ทีเพิ่มขึ้น 4 แสนตัน/ปีในปี 2561 สนับสนุนการเติบโตกำไร 30-14% ปี 2560-2561 ขณะที่ถ้าพิจารณาในทางเทคนิค มีแนวโน้มทดสอบแนวต้านสูงสุดเดิมที่ 74.50 บาท ซึ่งถ้าผ่านไปได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 76-77 บาท

 

สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

PTTGC  มูลค่าการซื้อขาย 841.69 ล้านบาท ปิดที่  74.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

AOT  มูลค่าการซื้อขาย 783.94 ล้านบาท ปิดที่  41.00 บาท  ลดลง 0.25 บาท

SUPER  มูลค่าการซื้อขาย 670.30 ล้านบาท ปิดที่   1.54 บาท  ลดลง 0.01 บาท

TKN  มูลค่าการซื้อขาย 562.11 ล้านบาท ปิดที่  22.70 บาท  ลดลง 0.60 บาท

PTT  มูลค่าการซื้อขาย 546.48 ล้านบาท ปิดที่ 392.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

Back to top button