สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 เม.ย.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่ามาตรการปฏิรูปภาษีที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เปิดเผยเมื่อวานนั้น ไม่ได้ลงรายละเอียดที่ชัดเจนเพียงพอ และไม่ได้ให้ความกระจ่างว่าแผนการปรับลดภาษีในครั้งนี้จะส่งผลให้สหรัฐขาดดุลงบประมาณมากขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง ทวิตเตอร์ และเป๊ปซี่โค

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,975.09 จุด ลดลง 21.03 จุด หรือ -0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,387.45 จุด ลดลง 1.16 จุด หรือ -0.05% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,025.23 จุด ลดลง 0.27 จุด หรือ -0.00%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) โดยตลาดตลาดสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงส่งแรงซื้อเข้าหนุนตลาดอย่างต่อเนื่อง หลังจากนายเอมมานูเอล มาครอง ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายค่อนข้างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปภาษี โดยการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 388.73 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2558

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,472.80 จุด เพิ่มขึ้น 5.76 จุด หรือ +0.05% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,288.72 จุด เพิ่มขึ้น 13.08 จุด หรือ +0.18% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,287.88 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด หรือ +0.19%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก เมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) ด้วยแรงหนุนจากผลประกอบการประจำไตรมาสที่แข็งแกร่งของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และบริษัทเคมีภัณฑ์ยักษ์ใหญ่อย่างโครดา อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งส่งผลให้หุ้นของทั้งสองบริษัทพุ่งขึ้นนำตลาดเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนระมัดระวังการซื้อขายเพื่อจับตาดูนโยบายปฏิรูประบบภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ซึ่งมีการประกาศภายหลังจากที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการ

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 13.08 จุด หรือ +0.18% ปิดที่ 7,288.72 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปภาษี โดยการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 3 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่  1,264.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 22.8 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 17.363 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 948.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 8.5 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 805.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม การที่สต็อกน้ำมันเบนซินและสต็อกน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้นนั้น ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงขึ้นในสหรัฐ และยังเป็นปัจจัยที่สกัดแรงบวกในตลาดด้วยเช่นกัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ขยับขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 49.62 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 51.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) ขานรับนโยบายปฏิรูปภาษีขนานใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ  111.45 เยน จากระดับ 111.11 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9949 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9932 ฟรังก์สวิส

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0890 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0938 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2841 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2828 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7470 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7540 ดอลลาร์

Back to top button