TPCH ลุ้นกำไร Q1 โตเท่าตัว ทุบสถิติในรอบ 5 ปี!

TPCH กำไร Q1 โตกว่าเท่าตัว ทุบสถิติในรอบ 5 ปี! หลัง "โรงไฟฟ้าทุ่งสัง กรีน" เพิ่มเป็นเฉลี่ยประมาณ 90% จากไตรมาสก่อนที่ประมาณ 83% ด้านโบรกฯ มองกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีโอกาสได้ขยายกำลังผลิตในอนาคต


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของบริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงของการประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/60 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย โดยนักวิเคราะห์มองว่ากำไรไตรมาส 1/60 ของ TPCH จะเติบโตขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อนและปีก่อน ทั้งยังทำนิวไฮในรอบ 5 ปีตั้งแต่เริ่มกิจการมา ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าทุ่งสัง กรีน เพิ่มเป็นเฉลี่ยประมาณ 90% จากไตรมาสก่อน

 

ด้านราคาหุ้นวานนี้ (27 เม.ย.) อยู่ที่ 18.70 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง สูงสุดที่ 18.80 บาท ต่ำสุดที่ 18.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 5.37 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 23.50 บาท อยู่ 25.66%

 

โดยนักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ TPCH ให้ราคาเป้าหมาย 23.50 บาท/หุ้น โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 1/60 จะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยในปัจจุบันบริษัทลงทุนในโรงไฟฟ้า 12 แห่ง ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ 4 แห่งกำลังการผลิต 40 MW และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 8 แห่งกำลังการผลิตรวม 110 MW โดยโรงไฟฟ้า 11 แห่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล (140MW) และอีก 1 แห่งเป็นโรงไฟฟ้าขยะ(10MW) โดยบริษัทจะเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้า SPP-Hybrid Firm และVSPP-Semi Firm กำลังการผลิตรวม 589 MW ซึ่งคาดว่าภาครัฐจะเปิดประมูลภายในปีนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิต 330 MW ในปี 63

ส่วนปี 60 คาดว่าผลประกอบการเติบโต 95% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากโรงไฟฟ้า Pattalung Green Power (PGP) กำลังการผลิต 9.9MW และ Satun Green Power (SGP) กำลังการผลิต 9.9MW จะเริ่มผลิตไฟฟ้าในไตรมาส 2/60 และไตรมาส 3/60 ตามลำดับ โดยทั้ง 2 แห่งตั้งอยู่ในภาคใต้ทำให้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้แห่งละ 9.2MW เป็นขณะที่ปี 61 คาดว่าโรงไฟฟ้า Pattani Green Power1(PTG1) กำลังการผลิต 23MW จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในไตรมาส 2/61 และโรงไฟฟ้า TPCH 1 2 และ 5 กำลังการผลิตรวม 24.7MW จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในไตรมาส 4/61 ซึ่งโรงไฟฟ้าทั้ง 5 แห่งตั้งอยู่ในภาคใต้ส่งผลให้สามารถขายไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยหนุนกำไรปี 61 ให้เติบโต 63% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 638 ล้านบาท

 

ส่วนนักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ TPCH ให้ราคาเป้าหมาย 23.20 บาท/หุ้น คาดผลประกอบการไตรมาส 1/60 เติบโตขึ้น โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 68 ล้านบาท ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่บริษัทชนะประมูลในช่วงปลายปี 59 ทั้ง 3 โครงการ ขนาดรวม 26.1 MW ปัจจุบันได้รับใบอนุญาต PPA แล้ว ประเมิน upside ของราคาหุ้นไว้ที่ 2.27 บาทต่อหุ้น อิงสมมติฐาน ชนะโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 โครงการขนาดรวม 26.1 MW ที่อัตราขายไฟฟ้าภายใต้ระบบ FiT เฉลี่ยทั้งสามโครงการที่ 3.20 บาทต่อหน่วย กำลังการผลิต 227.7 หน่วย และอัตรากำลังการผลิต 91% เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ ปี 62 นอกจากนี้ประเมินกำไรปี 62 จากทั้ง 3 โครงการไว้ที่ 148 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินลงทุนใน 26.1MW นั้น ไม่น่าเป็นประเด็นต่อการเพิ่มทุน คาดเงินลงทุนไว้ที่ 360 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมาจากกระแสเงินสดจาก CRB MWE MGP TSG อิงสมมติฐาน สัดส่วนการลงทุน 65% ต้นทุน 75 ล้านบาทต่อ 1 MW และ project D/E 2.5:1 เท่า นอกจากนี้คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 4/60 จะเป็นจุดสูงสุดของปี จากการ COD อีก 2 โครงการ (PGP และ SGP) ขนาด 18.4 MW ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 60

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ TPCH ราคาเป้าหมาย 23 บาท/หุ้น โดยคาดกำไรในช่วง 3 ปี (60-62) โตสูงเฉลี่ย 54% จากการทยอย COD ของโรงไฟฟ้าใหม่ มี Upside โอกาสได้ขยายกำลังผลิตอนาคต จากโครงการรับซื้อไฟฟ้าของภาครัฐ เช่น โครงการชีวมวล 3 จังหวัดชายแดนใต้ 18 MW, โครงการ SPP Hybrid 300 MW, และ โครงการ VSPP Semi Firm 289 MW ซึ่งคาดมีความชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลังปี 60 หลังโครงการโซลาร์สหกรณ์ราชการเฟส 2 ไม่เกิน 219 MW ที่ประกาศรับซื้อไฟแล้ว และคัดเลือกคุณสมบัติและจับฉลากในปลายเดือนพ.ค.-ต้นมิ.ย.นี้

ทั้งนี้คาดว่ากำไรไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 73 ล้านบาท เพิ่มเล็กน้อย 3.4% จากไตรมาสก่อนแต่ยังเป็น New High ในรอบ 5 ปีตั้งแต่เริ่มกิจการมา และเพิ่มสูง 131.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตราใช้กำลังผลิตของโรงไฟฟ้าทุ่งสัง กรีน (TSG: 9.2 MW, TPCH ถือหุ้น 65%) เพิ่มเป็นเฉลี่ยประมาณ 90% จากไตรมาสก่อนที่ประมาณ 83% หลังเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ต้นไตรมาส และโรงไฟฟ้ามหาชัยกรีน พาวเวอร์ (MGP: 8 MW, TPCH ถือหุ้น 46%) เมื่อต้นไตรมาส 2/59 แต่ชดเชยจากการหยุดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าแม่วงศ์ (MWE: 8 MW, TPCH ถือหุ้น 85%) และโรงไฟฟ้ามหาชัยกรีน พาวเวอร์ (MGP: 8 MW, TPCH ถือหุ้น 46%) ประมาณ 1 สัปดาห์ กำไรเพิ่มสูงจากปีก่อนต่อเนื่อง จากการดำเนินงาน 4 โรงไฟฟ้า เทียบกับช่วงไตรมาส 1/59 ดำเนินงาน 2 โรงไฟฟ้า ทำให้รายได้โต 83.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือโต 3.7% จากไตรมาสก่อน

ขณะที่โรงไฟฟ้าพัทลุง กรีน พาวเวอร์ (PGP: 9.2 MW, TPCH ถือหุ้น 60%) และโรงไฟฟ้าสตูล กรีน พาวเวอร์ (SGP: 9.2 MW, TPCH ถือหุ้น 51%) คาดเลื่อน COD ออกไป 2-3 เดือนเป็นไตรมาส 2/60 และไตรมาส 3/60 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม คาดผลกระทบไม่มากอย่างมีนัยฯ ต่อประมาณการกำไรทั้งปี 60 ที่คาดโต 79% และปีหน้าคาดโตอีก 72% ทั้งนี้ การเลื่อน COD 1 เดือน คาดทำให้กำไรลดลงจากเดิมประมาณ 3%

Back to top button