ดาวเคราะห์เรียงตัวโมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอเม้าท์ว่า เดี๊ยนเป็นสาวสวยรุ่นใหม่ที่สนใจเรื่องของ “เหตุและผล”  จึงพยายามสอดแทรกข้อมูลตัวเลขเป็นประจำเมื่อมีโอกาสเม้าท์ถึงเรื่องต่างๆ ในตลาดหุ้น และหนึ่งในข้อมูลที่ทำให้เดี๊ยนสะดุดใจมากที่สุดวานนี้ก็คือ คำทำนายเรื่องดาวเคราะห์เรียงตัวเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 58 ก่อให้เกิดพลังงานแรงโน้มถ่วงที่นำไปสู่ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างเช่น เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่!

*เดี๊ยนอุตส่าห์เฝ้าระวังเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่เช้าจรดเย็น สุดท้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่มีการทำนายไว้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ กลายเป็นปอบผีฟ้ายังคงสำแดงฤทธิ์เดชทุบหุ้นแบบไม่เกรงใจ ล่าสุดโยนหุ้นออกมาอีก 1.12 พันล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จตั้งแต่ต้นเดือนทิ้งหุ้นออกมาเพียวๆ 8.80 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นๆ กลายเป็นผู้ซื้อสุทธิแบบนี้…ไม่เรียกว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัด แล้วจะให้เรียกว่าอะไรเจ้าค่ะ

*เนื่องจากฉากหน้าเสแสร้งว่า จุดแนวรับสำคัญแต่ละจุดเป็นบริเวณรับของ แต่อีกหน้าหนึ่งกลับสาดหุ้นออกมาเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ดัชนีลงมายืนที่แนวรับสำคัญ “โมนิก้า” จึงถือเป็นเคราะห์กรรมของคนที่ไม่ได้ทำการบ้านมาดีพอ วานนี้ถึงเห็นดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,493.61จุด ลบไป  7.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.15 หมื่นล้านบาท ยิ่งทำให้เดี๊ยนตระหนักมากขึ้นว่า แฟนคลับต้องทำความเข้าใจเกมการเงินเที่ยวนี้ให้ดีมากขึ้นเจ้าค่ะ

*หากไม่ต้องการเห็นหุ้นที่ตัวเองถือรูดลงครั้งแล้วครั้งเล่า “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับทยอยสะสมหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา เพื่อนำไปขายหุ้นในช่วงที่หุ้นดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง หรือจะเล่นตามน้ำในบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย และควรหลีกเลี่ยงหุ้นบลูชิพเป็นการชั่วคราว เพราะเหลือแก๊ปให้วิ่งในแต่ละรอบไม่เยอะ ยกเว้นบลูชิพบางตัวที่กระแสมาดี เทคนิคสวย อันนี้ต้องเกาะกระแสไปเลยนะคะ

*เหมือนกับในรายของ IVLถ้ามองภาพรวมของหุ้นขนาดใหญ่ทั้งตลาด เหมือนอยู่ในอาการ “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” หุ้นขึ้นได้ 2-3 วัน หลังจากนั้นรูดลงอย่างเดียว แต่สำหรับรายนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ราคาหุ้นยังขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง  แถมการเคลื่อนตัวยังเป็นลักษณะ w-shapeวานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 26.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 5%  บอกได้ทันทีว่า ยังมีโอกาสไปได้อีกนิดหน่อย เพราะรอบของหุ้นจบตรง 28 บาทไงล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ TASCOหลังจากพลิกแนวต้าน 16 บาทกลายเป็นแนวรับ จากนั้นพยายามไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ 18 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 4%  ซึ่งเป็นการปิดที่แนวต้านสำคัญพอดีแบบนี้ “โมนิก้า” เม้าท์ต่อได้ทันทีว่า “มีลุ้น” เพราะปิดเขียวมา 2 แท่ง มีโอกาสปิดเขียวอีกแท่ง ขณะเดียวกันถ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ 2 ครั้งเป็นลักษณะ เขียว 2 แดง 1 มันเป็นข้อมูลที่ทำให้นักเล่นต้องคิดมากเป็นพิเศษ งานนี้มองได้ทั้งในส่วนของ “โอกาส” กับ “วิกฤต” ขึ้นอยู่ว่าจะมองแบบไหน?

*อีกหนึ่งรายที่ต้องผจญกับดาวเคราะห์เรียงตัวคงหนีไม่พ้น IFECก่อนหน้านี้หุ้นโดนเขย่าแบบหนักๆ 2-3 ครั้งด้วยกัน จนหลายคนเกิดอาการหลอนทางจิตอย่างเห็นได้ชัด ครั้นจะไล่ราคาตามกระแส ก็เกรงจะไปเข้าทางปืนของคนบางกลุ่ม หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ล่าสุดปิดแท่งเขียวมา 2 วันติด บวกกับวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 11.50บาท บวกไป 0.50บาท หรือขึ้นไป 4.50% ตามตำราเขาหมายถึงจังหวะ follow นะจะบอกให้

*เหมือนกับหุ้นกลุ่มยาง STA และTRUBBยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักโหนกระแส ขณะเดียวกันก็อย่าลืมว่า ต้องเน้นสั้นๆ เรื่องราคายางเริ่มฟื้นตัว กับเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว ความเป็นไปได้ที่ราคายางจะพุ่งกระฉูดแบบแรลลี่ มันเป็นแค่เพียงการมโนของพวกโลกสวยเท่านั้น ล่าสุดหุ้นปิดที่ 13.30บาท บวกไป 1.10บาท หรือขึ้นไป 9% ส่วนรายหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.85บาท บวกไป 0.21บาท หรือขึ้นไป 12.80% ทราบแล้วเปลี่ยน!

*เฉกเช่นเดียวกับในรายของ FANCYถ้าดูตามเนื้อผ้าที่ตัดเย็บมาเป็นเวลา 3-4 ปี “โมนิก้า” ต้องออกตัวแรงว่า “ไม่ได้เรื่อง” ผลขาดทุนมีมาให้เห็นเป็นระยะ พัฒนาการสำคัญที่ทำให้กำไรเติบโตอย่างยั่งยืน ยังเป็นเพียงการอุปทานหมู่ที่มีให้เห็นเป็นประจำ และเลวร้ายสุดอยู่ที่การขึ้นของหุ้นเที่ยวนี้เกิดจากอะไร ก็ยังไม่มีใครรู้เลยสักราย ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 3.84บาท บวกไป  0.22บาท หรือขึ้นไป 6% แถมเป็นการบวกติดต่อกัน 3 วันติดๆ บอกตรงๆ น่ากลัวสุดๆ นะเนี่ย

*น่าเสียดายที่ประเด็นดังกล่าวไม่ระแคะระคายดาวเด่น STARแม้แต่นิดเดียว ราคาหุ้นยังคงมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ และไม่มีใครรู้ว่า จะไปถึงระดับไหน? ของทุกอย่างที่ปรากฏให้เห็นยังเป็นแค่เพียงเรื่องเล่าบอกต่อกันมา ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.70บาท บวกไป 0.30บาท หรือขึ้นไป 5.50% “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า ภาวะการลงทุนแบบนี้ บางทีก็ไม่มีคำอธิบายว่า หุ้นขึ้นได้อย่างไร? นะค่ะ