ดอลล์แข็งค่าจากกระแสเฟดขึ้นดอกเบี้ย-อีซีบีผ่อนคลายเพิ่ม

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ส่งสัญญาณถึงการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0704 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0757 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5103 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5112 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.24 เยน จาก 123.10 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0077 ฟรังก์ จาก 1.0037 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7020 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7046 ดอลลาร์

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากอีซีบีได้ส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค. แม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นการขยายโครงการซื้อพันธบัตรหรือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีจะทำการตัดสินใจในการประชุมเดือนหน้าว่า การซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในขณะนี้สามารถรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้หรือไม่ และอีซีบีจำเป็นต้องเพิ่มวงเงินในมาตรการ QE หรือไม่ คำกล่าวของนายดรากีสะท้อนสิ่งที่เขากล่าวในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้วว่า อีซีบีจะทำการทบทวนในเดือนธ.ค.เพื่อพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำในขณะนี้

ด้านสหรัฐฯ การแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในเชิงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ยังคงช่วยหนุนดอลลาร์สหรัฐให้ปรับตัวแข็งแกร่ง ล่าสุด นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน กล่าวว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือนธ.ค. เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ นายโรเซนเกรนระบุว่า เดือนธ.ค.อาจเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมสำหรับการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาด

Back to top button