กูรูเชียร์ซื้อ 4 หุ้นกำไร Q3 ออกมาเริ่ดSET บ่ายไซด์เวย์-จับตาการประมูล4G

SET เช้านี้รับแรงกดดันจากกลุ่มสื่อสารหลังประมูล 4G แข่งเดือด-กลุ่มพลังงาน แต่ได้กลุ่มแบงก์ช่วยหนุนเล็กน้อย ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งแคบทั้งในแดนบวก-ลบ หลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน แต่ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ-จีน ส่วนแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในธ.ค.นี้ ตลาดรับรู้ไประดับหนึ่งแล้ว บ่ายนี้ตลาดคงแกว่งไซต์เวย์ เว้นแต่ว่า JAS จะชนะประมูล 4G หากจริงจะทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมสื่อสารสูงขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,380 แนวต้าน 1,404 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (12 พ.ย.) ดัชนีปรับตัวลงรับแรงกดดันจากกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มพลังงาน แต่ได้กลุ่มแบงก์ช่วยหนุนไว้เล็กน้อยส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงไม่มาก ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งแคบทั้งในแดนบวกและลบ หลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน แต่ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐและจีน

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดคงแกว่งไซต์เวย์ เว้นแต่ว่า JAS จะชนะประมูล 4G หากจริงจะทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมสื่อสารสูงขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,380 แนวต้าน 1,404 จุด ขณะที่ “ซื้อ” SAWAD-BEAUTY-KCE-TOP และ “เก็งกำไร” EPG คาดว่ากำไรจะออกมาดี

 

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มสื่อสารที่ปรับตัวลงกันหลังการประมูล 4G แข่งขันสูง อีกทั้งกลุ่มพลังงานกดดันหลังราคาน้ำมันปรับตัวลง แต่หุ้นในกลุ่มแบงก์ช่วยหนุนตลาดได้เล็กน้อย เนื่องจากมองกันว่าการประมูล 4G ที่ราคาสูงน่าจะทำให้ปล่อยกู้ได้ค่อนข้างมาก

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งแคบทั้งในแดนบวกและลบเล็กน้อย เนื่องจากช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา มีเพียงให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ และจีน ส่วนเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในการประชุมเดือนธ.ค. ตลาดได้รับรู้ไปในระดับหนึ่งแล้ว

แนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้ คาดตลาดฯคงจะแกว่งไซต์เวย์ ยกเว้นแต่ว่า JAS จะชนะการประมูล 4G หากเป็นจริงจะทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมสื่อสารสูงขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,404 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (12 พ.ย.) ว่า การประมูลคลื่น 1800MHz ยังไม่จบ ล่าสุดอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเปิดประมูลต่อหลัง 14.30 น. เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่อย่าง ADVANC-INTUCH-DTAC และ TRUE โดยจากการทำ Sensitivity เบื้องต้นแม้ราคาประมูลจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ราคาหุ้น ADVANC ที่ปรับลดลง 10-12 บาท วันนี้สะท้อนราคาประมูลที่ 7 หมื่นล้านบาท (รวมคลื่น 1800MHz และ 900MHz) ไปแล้ว ทำให้มอง Downside Risk จำกัด

ทั้งนี้ ราคาประมูลคลื่น 1800MHz ที่สูงขึ้น แม้เป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มสื่อสาร แต่กลับเป็น Upside Risk ต่อการเติบโตสินเชื่อของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่อย่าง KBANK-SCB-BBL ที่เป็นเจ้าหนี้ของบริษัททั้ง 3 ราย โดยยก KBANK เป็น Top Picks ในกลุ่มธนาคารเหมือนเดิม ประเมินแนวต้านระยะสั้นที่ 180 บาท

อย่างไรก็ตาม แนะนำ “ซื้อ” SAWAD-BEAUTY-KCE ที่กำไรในไตรมาส 3 ปี 2558 ออกมาดี และ “เก็งกำไร” EPG ที่คาดว่ากำไรจะออกมาดี (คาดประกาศเย็นนี้ หรือพรุ่งนี้) ต่อเนื่อง รวมไปถึง “ซื้อ” TOP ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 70 บาท จาก 1) กำไรไตรมาส 3 ปี 2558 แม้ขาดทุน 2.3 พันล้านบาท แต่เป็นผลจาก FX Loss และ Inventory Loss

ขณะที่ Norm Profit อยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท ดีกว่าคาด 2) กำไรในงวด 9 เดือน คิดเป็น 80% ของประมาณการทั้งปี ขณะที่ค่าการกลั่นยังทรงตัวในระดับสูง โดยเฉพาะราคา GRM ของราคาน้ำมัน Diesel ที่สูงขึ้น 3) ปัจจุบัน ซื้อขายที่ PE 7 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.7% มอง Downside Risk จำกัด ขณะที่ทางเทคนิคมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นไปที่แนวต้าน 60.0 บาท

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (12 พ.ย.) ดัชนีช่วงเช้าปิดลบ ขณะที่ ตลาดภูมิภาคปรับขึ้นติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่จะจัดขึ้นที่วอชิงตัน ดี.ซี. คืนนี้ตามเวลาไทย เพื่อประเมินทิศทางนโยบายเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดซึ่งจะประชุมอีกครั้งในเดือนธ.ค.นี้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนของญี่ปุ่นในเดือนก.ย. ปรับตัวขึ้น 7.5% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อนอกภาคการผลิต

สำหรับปัจจัยในประเทศ ติดตามการเคาะราคาประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ในรอบที่ 75 ก่อนหยุดพักการประมูล 3 ชั่วโมง ปรากฎว่ามีผู้เคาะราคาใบอนุญาต ชุดที่ 1 จำนวน 1 ราย ทำให้ราคาสูงขึ้นมาที่ 37,006 ล้านบาท ส่วนใบอนุญาตชุดที่ 2 คงอยู่ในระดับเดิมของรอบที่แล้วคือ 37,404 ล้านบาท  โดยประเด็นที่น่าสนใจคือ เรื่องของอัตราค่าบริการที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ทางกสทช.ยืนยันว่าอัตราค่าบริการ 4G จะต้องถูกกว่าอัตราค่าบริการ 3G อย่างแน่นอน.

แนวโน้มภาคบ่ายเชิงเทคนิค หลังดัชนีช่วงเช้าปรับตัวหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,386 จุด ซึ่งถือเป็นสัญญาณขาย มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลงต่อ ทดสอบ 1,380/1,373 ซึ่งเป็นจุดซื้อเล่นรอบและซื้อระยะกลางบางส่วน

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ADVNAC มูลค่าการซื้อขาย 3,607.94 ล้านบาท ปิดที่ 215.00 บาท ลดลง 11.00 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,796.28 ล้านบาท ปิดที่ 5.30 บาท ลดลง 0.20 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,825.41 ล้านบาท ปิดที่ 9.40 บาท ลดลง 0.60 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,505.18 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 3.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 566.59 ล้านบาท ปิดที่ 278.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button