ราคาทองปิดร่วงเกือบ 4 ดอลล์ จากกระแสคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิด (12 พ.ย.) ที่ระดับ 1,081.00 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.8 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 14.225 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 6.2 ดอลลาร์ หรือ 0.70% ปิดที่ 876.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 18.30 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 558.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุดนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดควรออกจากนโยบายที่กำหนดให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ 0% เนื่องจากนโยบายดังกล่าวได้บรรลุผลส่วนใหญ่ตามที่ต้องการแล้ว

ทั้งนี้ นายบูลลาร์ดกล่าวว่า อัตราว่างงานของสหรัฐซึ่งอยู่ที่ 5% ในขณะนี้ ถือว่าแทบไม่แตกต่างจากค่ากลางในการประเมินของเฟดในระยะยาวที่ระดับ 4.9% นอกจากนี้ นายบูลลาร์ดยังได้แสดงความต้องการที่จะกลับไปสู่นโยบายดุลยภาพที่เฟดใช้ในระหว่างปี 1984-2007 ซึ่งเกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินที่ดี และการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว รวมทั้งการมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าในปัจจุบัน

นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ เมื่อพิจารณาจากการส่งสัญญาณของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด และข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557

Back to top button