SET รีบาวด์ต่อ ลุ้นวัดระดับ 1,400 จุดซื้อ 14 บจ.ร้อน พลังงาน-โรงกลั่นเด่น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ จากการฟื้นตัวของตลาดต่างประเทศ และราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุน LTF การลงทุนเน่นกลุ่มที่กำไรไตรมาส 3 ออกมาดี, ราคาถูก, กลุ่มโรงกลั่นซึ่งได้รับผลดีจากค่าการกลั่นที่เริ่มฟื้นตัว และกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากการประมูลรถไฟรางคู่


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.93 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินเยน ขณะเดียวกันนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีปารีสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ จากการฟื้นตัวของตลาดต่างประเทศ และราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุน LTF การลงทุนเน่นกลุ่มที่กำไรไตรมาส 3 ออกมาดี, ราคาถูก, กลุ่มโรงกลั่นซึ่งได้รับผลดีจากค่าการกลั่นที่เริ่มฟื้นตัว และกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากการประมูลรถไฟรางคู่ หุ้นเด่นเลือก SAWAD-KCE-BEAUTY-MINT-EPG-TISCO-IRPC-CK-STEC-UNIQ-ITD-TOP-PTTGC และ BCP

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (17 ต.ค.) มีโอกาสที่จะรีบาวด์ต่อ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นทั่วหน้า และตลาดต่างประเทศก็ถือว่าแกร่งกว่าที่คาดไว้ จากที่มีแรงช้อนซื้อเข้ามา คงเป็นผลจากที่มองว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในฝรั่งเศสน่าจะกระทบแค่ระยะสั้นเท่านั้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันก็รีบาวด์ขึ้นด้วย

ส่วนปัจจัยในประเทศจะเห็นได้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไทยออกมาดีกว่าคาด อย่างตัวเลข GDP ของไทยงวดไตรมาส 3 ปี 25558 ที่ออกมาดีกว่าคาดเติบโตถึง 2.9% จากที่ตลาดคาดโต 2.6% ทำให้นักลงทุนมีมุมมองด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม วันนี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจากฝั่งยุโรป และสหรัฐฯ โดยฝั่งยุโรปเป็นตัวเลขผลสำรวจภาวะธุรกิจ ส่วนฝั่งสหรัฐฯให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,390-1,395 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ต.ค.) SET ฟื้นตัวด้วยแนวต้าน 1,392/1,400 จุด เป็นจังหวะดีดตัวหลังทดสอบแนวรับสำคัญ 1,367 จุดวานนี้ นอกจากนี้ การฟื้นตัวของตลาดหุ้น Dow Jones +1.38% และราคาน้ำมันดิบ Brent +1.2% เมื่อคืนนี้ และการเข้าซื้อของกองทุน LTF เป็นปัจจัยหนุน SET วันนี้ โดยเฉพาะหุ้นพลังงานตามราคาน้ำมัน และรับเหมาฯ จากประเด็น E-Auction 19 พ.ย.นี้

“ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่กำไรไตรมาส 3 ปี 2558 ออกมาดี, Valuation ต่ำ Laggard Play, และได้รับผลบวกจากการประมูลรถไฟรางคู่สัปดาห์นี้ ได้แก่

1) กำไรไตรมาส 3 ปี 2558 ออกมาดี: “ซื้อ” SAWAD แนวต้านระยะสั้น 47-48 บาท KCE BEAUTY MINT และ “เก็งกำไร” EPG (แนวต้าน 10.30 บาท)

2) หุ้น Valuation ต่ำ ปันผลสูง + Laggard Plays: TISCO IRPC (เลือกเข้ามาแทน TOP ที่ปรับสูงขึ้นแรงวานนี้)

3) ประมูลรถไฟรางคู่สัปดาห์นี้: CK STEC UNIQ และ “เก็งกำไร” ITD พลิกกลับมากำไรใน ไตรมาส 3 ปี 2558 (TNS ไม่ได้วิเคราะห์เชิงพื้นฐาน ITD)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ต.ค.) ว่า จากการฟื้นตัวแรงของดัชนีวานนี้ ประเมินมีโอกาส Sideway ขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,400 จุด ยังคงแนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นในลักษณะลงซื้อ ขึ้นขายในกรอบ 1,380-1,400 จุด  สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้มองไปที่กลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP-PTTGC-IRPC (+ ค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัว)

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ต.ค.) คาด SET มีโอกาสปรับขึ้น หลังสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส ไม่ส่งผลกระทบต่อ Sentiment ในการลงทุนมากนัก โดยคาดสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบในระยะยาวต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลประกอบการของภาคเอกชน แนะติดตาม 1) การเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟด (เมื่อ 27 – 28/10/58) เช้า พฤ. ตามเวลาไทย ว่าจะมีสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าหรือไม่ และ 2) ทิศทางของ Fund Flow โดยเฉพาะจากตลาด Emerging Markets ขณะที่เงินสหรัฐฯ ยังคงแข็งค่า

หุ้นแนะนำ: BCP

Back to top button