Daily View – (P.M.) – บล.กสิกรไทย

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


สรุปภาวะตลาดเช้า

SET Index ปรับเพิ่ม 1.73 จุด (0.12%) ปิดภาคเช้าที่ 1,395.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 13,739.63 ล้านบาท

Most Positive Impact: BAY (+1.36 จุด) SCC (+0.51 จุด) AOT (+0.45 จุด)

Most Negative Impact: TRUE (-0.78 จุด) DTAC (-0.31 จุด) KTB (-0.29 จุด)

 

แนวโน้มตลาดบ่าย 

“จืดชืดบ่ายนี้ออกข้าง 1,395-1,400 จุด แต่ถ้าหากปิดตัวเหนือ 1,400 จุดได้จะดีมาก”  

เป็นอีกวันที่กลุ่ม Domestic ยังคงเป็นกลุ่มนำตลาด โดยเฉพาะกลุ่มที่ยัง Laggard หรือกลุ่มที่ขึ้นช้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พอมาถึง 2 วันนี้ กลับพลิกเป็นกลุ่มที่ปรับเพิ่มขึ้นโดดเด่น

มีกลุ่มที่เคลื่อนไหวน่าสนใจ คือกลุ่มธนาคารฯ วันนี้บวกมา 0.8% เมื่อมองเข้าไปจะยิ่งกว่าน่าสนใจ ก็คือเป็นธนาคารฯขนาดเล็กถึงกลางที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพวก ธนาคารฯที่มีพอร์ตสินเชื่อหลักเป็นสินเชื่อเช่าซื้อจะพบว่า ขึ้นมาโดดเด่นมากใน 2 วันนี้ทั้ง TCAP KKP TISCO สะท้อนว่าตลาดกำลังมองว่าสินเชื่อเช่าซื้อเช่าซื้อได้พบจุดต่ำสุดไปแล้ว

ยอดขายรถยนต์ในช่วงปลายปีมีโอกาสที่จะเร่งตัวมากขึ้น เนื่องจากปีหน้าจะเริ่มมีการใช้เกณฑ์ใหม่ในการเก็บภาษีสรรพสามิตรยานยนต์ โดยอัตราภาษีใหม่จะอิงกับการปล่อยไอเสีย อีกทั้งในเดือนช่วง 2-13 ธ.ค.2558 จะมีงาน Motor Expo ซึ่งอาจเป็นตัวหนุนให้ยอดขายรถยนต์ดีขึ้นด้วยอีกแรง ตามสถิติในช่วง 2552 – 2556 ที่มีการจัดงาน Motor Expo และ Motor Show กลุ่มยานยนต์มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีเสมอ เช่นเดียวกับกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ ฝ่ายวิจัยมองกลุ่มยานยนต์ที่น่าสนใจเป็น SAT และ ธนาคารฯที่เน้นเช่าซื้อคือ TCAP 

ฝ่ายวิจัยคาดว่ากลุ่มที่ Laggard ก่อนหน้านี้จะยังคงเป็นเป้าหมายในการโยกเงินมาลงทุน และน่าจะปรับขึ้นได้อีก คาดว่า อาหาร CPF โรงพยาบาล BH BDMS มีโอกาสที่จะขึ้นต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มที่ยังน่าเก็บสะสมเพราะยังไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นคือ ค้าปลีก ROBINS GLOBAL อสังหาฯ SPALI

SET Index บ่ายนี้น่าจะออกข้างกันต่อไป โดยน่าจะแกว่ง Sideway ในกรอบ 1,395 – 1,400 จุดแคบๆเงียบๆกันอีกวัน ทั้งนี้หากสามารถปิดตัวเหนือ 1,400 จุดได้จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อเนื่องถึงวันพรุ่งนี้ 

ประเด็นจับตา/ติดตาม: ปัจจัยต่างประเทศ: 24 พ.ย. รายงาน GPD Growth งวดไตรมาส 3/58 ของสหรัฐ ครั้งที 2 คาดการณ์ที่ 1.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (annualized) จากครั้งก่อนหน้าที่ 1.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (annualized) // 27 พ.ย. ประชุมบอร์ด OPEC เกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดน้ำมันโลก

ปัจจัยในประเทศ: ตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค. คาด -7.4% (เดือนก่อนหน้า -5.51%) นำเข้า คาด -17.29% (เดือนก่อนหน้า -26.20%) 

หุ้นแนะนำ: Domestic ที่ยัง Laggard SPALI ROBINS CPF BH GLOBAL  

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: FORTH เป้าทำกำไร 10.00 บาท ตัดขาดทุน 9.20 บาท

 

Investment Theme

1.หุ้น Value Plays ธนาคารฯ ที่มี PE และ PBV ต่ำ BBL TCAP Laggard Plays เลือก ERW BA CPF ROBINS

2.SET50/100 Plays GPSC KCE MTLS PLANB CHG WORK

3.หุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุน CK (การลงทุนของรัฐบาล) AOT CENTEL (ฤดูกาลท่องเที่ยว) SAT(เก็งยอดขายรถยนต์ปลายปี)

4.Earning Momentum กำไรปี 2559 โตต่อเนื่อง KCE SVI BH SAWAD MTLS CPALL TPCH   

5.หุ้น High Dividend และ High Upside AP SPALI LH BTS* ASK* (*Blooomberg Consensus)  

Back to top button