TOA กวาดรางวัล “ฉลากเขียว” สี-แผ่นยิปซัม ตอกย้ำองค์กรสีเขียวมุ่งสู่ความยั่งยืน

TOA ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างรักษ์โลก เข้ารับ “ฉลากเขียว” สำหรับผลิตภัณฑ์สีและแผ่นยิปซัม สะท้อนวิสัยทัศน์องค์กรสีเขียวที่มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยสู่การผลิตอย่างรับผิดชอบ


บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำนวัตกรรมสีทาอาคารอันดับหนึ่ง เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้างรักษ์โลก ตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กรที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม เข้ารับ “ฉลากเขียว” สำหรับผลิตภัณฑ์สีและแผ่นยิปซัม ซึ่งเป็นฉลากสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการยอมรับและน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนาน

โดยมีนางสาววิภาดา นาคไพรัช ผู้อำนวยการสายงาน SHE & Quality Management and Sustainability ของ TOA พร้อมด้วย นายศุภชัย หิรัญญนิธิวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยิปมั่นเทค จำกัด เข้ารับเกียรติบัตร “ฉลากเขียว” จาก ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ประธานในพิธี ณ โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

การได้รับฉลากเขียวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ TOA ที่ตอกย้ำถึงเรื่องคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นเครื่องยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของ TOA ผ่านการควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด มีการจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นเลิศ และไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเราเชื่อว่าการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะช่วยให้การเข้าถึงผลิตภัณฑ์สีเขียวเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ดังนั้น “ฉลากเขียว” จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อถือและไว้วางใจของผู้บริโภค ทำให้ทุกการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของ TOA เท่ากับการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างแท้จริง

การรับรองฉลากเขียวสำหรับผลิตภัณฑ์สีและผลิตภัณฑ์ยิปซัมของ TOA นี้ ถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของภารกิจด้านความยั่งยืน และESG โดยมุ่งหวังว่าความสำเร็จนี้จะช่วยสร้างแรงกระเพื่อมให้กับภาคธุรกิจอื่นๆ ให้เกิดการผลิตอย่างรับผิดชอบต่อผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นการเปิดทางให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการบริโภคอย่างยั่งยืนได้อย่างสะดวกและมั่นใจอีกด้วย

TOA จึงนับเป็นผู้นำและกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการผลิตและการบริโภคของประเทศไทย การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มี “ฉลากเขียว” ของ TOA จึงเท่ากับว่าผู้บริโภคได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างแท้จริง และร่วมสร้างโลกที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

Back to top button