จัดธีมหุ้นกลุ่มไหนเสี่ยง-ไม่เสี่ยงกรณี“รับ-ไม่รับ”ร่างรัฐธรรมนูญ

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า คาดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังไทยกำลังเข้สู่กระบวนการเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยหลังการทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ 7 ส.ค.นี้ ซึ่งประเด็นนี้ในมุมมองเชิงกลยุทธ์คาดว่าก่อนผลประชามติจะออกมาอาจเป็นความเสี่ยงระยะสั้นที่เข้ามากดดันให้ตลาดปรับฐานได้จึงได้ทำบทวิเคราะห์“Road to Referendum” เพื่อแนะนำกลยุทธ์การลงทุนภายใต้สถานการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงถัดไป จึงขอนำเสนอหุ้นรายกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบทั้งในกรณี“รับ-ไม่รับ”ร่างรัฐธรรมนูญ ดังนี้

ผลกระทบรายกลุ่มอุตสาหกรรม กรณีที่ผลประชามติ รับ ร่างรัฐธรรมนูญ

++ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ความชื่อมั่นของต่างชาติฟื้นหนุน FDI กระตุ้นการลงทุนภายในประเทศ และความเชื่อมั่นต่อการอุปโภคบริโภคจะฟื้นตัวดีขึ้น หนุนแนวโน้มสินเชื่อและฐานกำไรของกลุ่ม BANK มีโอกาสฟื้นตัวไวขึ้น Top Picks KBANK, SCB

++ อสังหาฯ คาดความเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจซื้อ และการตัดสินใจโอนจะดีขึ้น มอง sentiment กลุ่ม condo จะหวือหวาขึ้น,คาดแผนเปิดโครงการใหม่(โดยเฉพาะ condo) ยังคง aggressive เลือก AP เป็น Top Pick จากการที่บริษัทมีแผนเปิด condo โครงการใหม่ที่ aggressive โดยเฉพาะใน 2H16F

++ กลุ่มรับเหมาฯ ความคาดหวังบวกต่อการเร่งผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐฯเดินหน้าไวขึ้น Top Picks CK, STEC

++ นิคมอุตสาหกรรม ปัจจัยบวกเชิง Sentiment และอาจเห็น FDI ไหลเข้ามาลงทุนมากขึ้น หนุนยอดขายที่ดิน แนะนำ AMATA, WHA

++ ค้าปลีก ความเชื่อมั่นฟื้นเชิงจิตวิทยา แรงคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยการบริโภคจะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ แนะนำ GLOBAL, HMPRO

+ ท่องเที่ยวและโรงแรม จิตวิทยาบวกหนุนการท่องเที่ยว แต่ที่ผ่านมาแนวโน้มการท่องเท)ียวไทยยังเชิงบวก จึงคาดว่าจะกระตุ้นการเติบโตไม่มากนักจากปัจจัยนี้ เลือก BA, ERW, MINT เด่น

+ กลุ่มบันเทิง ความเชื่อฟื้นตัวจะหนุนเม็ดเงินโฆษณา แนะนำ WORK

+ ICT การเลือกตั้งจะมีผลต่อกลุ่มนี้ในเชิงจิตวิทยาเท่านั้น ขณะที่ผลกระทบเชิงพื้นฐานไม่มีนัยฯ ยกเว้นการเข้ามาของรัฐบาลใหม่ มีนโยบายหนุนกลุ่ม ICT แนะนำ ADVANC, ILINK เด่น

– กลุ่มชิ้นส่วนฯ อาจได้รับผลกระทบเชิงลบ กรณีค่าเงินบาทแข็งค่าจากภาพการเมืองที่ฟื้นความเชื่อมั่นของต่างชาติ

0 กลุ่มพลังงาน กลุ่มอาหาร และกลุ่มโรงพยาบาล ไม่มีผลกระทบในเชิงพื้นฐานอย่างมีนัยฯ

กลยุทธ์การลงทุนกรณีรับร่าง แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลับสู่ 70% หรือ ทยอยสะสมหุ้นกรณี SET ย่อในกรอบ 1480-1530 จุด โดยคาดกลุ่มที่จะ outperform ตลาด ได้แก่ กลุ่ม Domestic ที่จะถูกขับเคลื่อนจากความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใน ได้แก่ BANK, COM, CONMAT, PROP, CONSTRUCTION, ICT, TOURISM ในขณะที่กลุ่มที่คาดจะ underperform ได้แก่ HELTH, ETRON, ENERG, INS

 

ผลกระทบรายกลุ่มอุตสาหกรรม กรณีที,ผลประชามติ ไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญ

++ กลุ่มชิ้นส่วนฯ อาจได้ประโยชน์จากแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าตามความเชื่อมั่นของต่างชาติที่ลดลง กดดัน Outflow แนะนำ KCE

+ กลุ่มเกษตรและอาหาร จิตวิทยาบวกจากเงินบาทอ่อนค่า CPF, TU เด่น 

– กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ความเชื่อมั่นของต่างชาติลดลง คาดจะเป็นเป้าขายของนักลงทุนต่างชาติ Top Picks TCAP, TISCO

– อสังหาฯ มีโอกาสเห็นแผนการเปิดโครงการเลื่อนออกไป (โดยเฉพาะ condo) การตัดสินใจซื้อ/จอง อาจล่าช้า แนะนำ SPALI, LH

 -กลุ่มรับเหมาฯ ความชื่อมั่นต่อโครงการลงทุนภาครัฐฯอาจลดลง จากความไม่แน่นอนทางการเมือง แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นรับเหมาฯ

– นิคมอุตสาหกรรม FDI ไหลเข้าช้า คาดยอดขายที่ดินค่อยเป็นค่อยไป แนะนำ AMATAV

– ค้าปลีก ความเชื่อมั่นต่ำลง การบริโภคฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป แนะนำ GLOBAL

– กลุ่มบันเทิง ความเชื่อมั่นยังไม่ฟื้นตัว หุ้นแนะนำไม่มี

– ICT เป็นจิตวิทยาลบ แนะนำกลุ่มปันผลสูง ADVANC

0 กลุ่มพลังงาน และกลุ่มโรงพยาบาล ไม่มีผลในเชิงพื้นฐานอย่างมีนัยฯ

0 ท่องเที่ยวและโรงแรม คาดไม่มีผลเชิงลบเชิงพื้นฐานอย่างมีนัยฯ ยกเว้นเกิดเหตุรุนแรงทางการเมือง

กลยุทธ์ กรณีไม่รับร่าง แนะนำขายทำกำไรบริเวณ 1520-1550 จุด เพื่อรอตั้งรับบริเวณ 1480/1465 จุด โดยกลุ่มที่คาดจะ outperform ในกรณีนี้ ได้แก่ กลุ่ม GLOBAL Play & Defensive Play คือ ENERGY, PETRO, FOOD, COM, HELTH, UTILITIES, TOURISM ในขณะที่กลุ่มที่คาดจะ underperform ตลาด ได้แก่ กลุ่ม Domestic คือ BANK, CONMAT, PROP, CONSTRUCTION, ICT