ดาวโจนส์ปิดลบ 90 จุด ตลาดวิตกการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯซบเซา

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่กระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 7 วันทำการ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (2 ส.ค.) ที่ 18,313.77 จุด ลดลง 90.74 จุด หรือ 0.49%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,137.73 จุด ลดลง 46.47 จุด หรือ 0.90% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,157.03 จุด ลดลง 13.81 จุด หรือ 0.64%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับเดือนพ.ค. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลของชาวสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนพ.ค.

ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญนั้น ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ การขยับขึ้นของดัชนี PCE ยังคงห่างจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของเฟด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง หลังจากมีรายงานเตือนเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสซิกาในเมืองไมอามี โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ปรับตัวลง 7.8% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้ง ร่วงลง 6.3% หุ้นเจ็ทบลู ดิ่งลง 6.5% และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส ร่วงลง 5.9%

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ร่วงลง หลังจากมีรายงานว่ายอดขายของบริษัทรถยนต์สหรัฐซบเซาลงในเดือนก.ค. เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวลง โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ดิ่งลง 4.3% หลังจากฟอร์ด มอเตอร์เปิดเผยว่า ยอดขายปรับตัวลดลง 3% สู่ระดับ 216,479 คัน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ร่วงลง 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายลดลง 2% สู่ระดับ 267,258 คัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของช่วงคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.อาจจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาไทยนั้น รวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐเดือนก.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค.โดยมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

Back to top button