บลจ.ทหารไทย เปิดกองทุนรวมต่างประเทศลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ขาย 15-19 ส.ค.

บลจ.ทหารไทย เปิดกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ขาย 15-19 ส.ค.59 หลังหุ้นไทยขึ้นสูง-ดอกเบี้ยยังต่ำ


นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด หรือ บลจ.ทหารไทย (TMBAM) เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดทีเอ็มบี Global Infrastructure Equity ซึ่งเป็นกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) โดยกำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 15-19 ส.ค.59 นี้ สามารถลงทุนเริ่มต้นขั้นต่ำ 1,000 บาท

กองทุนดังกล่าวจะนำเงินลงทุนที่ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (กองทุนหลัก) คือ กองทุน Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund ในหน่วยลงทุนชนิด Class I ซึ่งจดทะเบียนในประเทศ ไอร์แลนด์ ซึ่งกองทุนหลักนี้ได้รับการจัดอันดับความเชื่อมั่นในระดับสูงสุด 5 ดาว จากมอร์นิ่งสตาร์ โดยทาง TMBAM จะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของการลงทุนในต่างประเทศตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน

กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก (Active Management) กระจายการลงทุนไปในหุ้นโครงสร้างพื้นฐานคุณภาพสูงในตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD) โดยเกณฑ์สำหรับการคัดเลือกหุ้นเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนประกอบด้วยการพิจารณาด้านความมั่นคงของรายได้ ความสามารถในการทำกำไรและความยั่งยืนของธุรกิจเป็นสำคัญ มีเป้าหมายหลักมุ่งสร้างผลตอบแทนต่อปีให้ชนะเงินเฟ้อสหรัฐฯ ราว 5% ซึ่งที่ผ่านมากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนขึ้นเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2556 อยู่ที่ 13.4% ต่อปี และ ผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 9.2%ต่อปี (ข้อมูลตาม Fund Factsheet ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tmbam.com)

โดยการลงทุนในปัจจุบันมีมุมมองแบบ Global Investor ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังมีความไม่แน่นอนและปรับตัวขึ้นจนอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงแล้ว การกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่นๆเพื่อลดความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็น ประกอบกับภาวะปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ยีลด์พันธบัตรสหรัฐฯมีแนวโน้มการปรับขึ้นช้า ในขณะที่ภูมิภาคที่สำคัญอื่นๆบางที่ยีลด์ติดลบ ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกก็ยังคงผันผวนสูงอยู่นั้น กองทุนรวมหุ้นโครงสร้างพื้นฐานน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อการลงทุนในช่วงนี้ เพราะคุณลักษณะของโครงสร้างพื้นฐานก็คือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นรากฐานและจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และมักจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน  อาทิ ทางด่วน สนามบิน โรงไฟฟ้า ท่อส่งน้ำมัน จึงเป็นเสมือนธุรกิจกึ่งผูกขาดได้รับสัมปทานอายุยาว สามารถสร้างกระแสรายได้แบบประจำสม่ำเสมอ มีอำนาจต่อรองในการปรับราคาขึ้นตามเงินเฟ้อ เพราะประชาชนมีความจำเป็นที่จะต้องบริโภค อุตสาหกรรมมีความจำเป็นต้องใช้สำหรับกิจกรรมการผลิต

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานจะมีความผันผวนต่ำโดยเปรียบเทียบ ขณะที่ยังคงให้โอกาสของผลตอบแทนคาดหวังที่เหนือกว่าเงินฝาก ตราสารตลาดเงินหรือพันธบัตร และไม่ค่อยอ่อนไหวต่อวามผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมือง กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่แสวงหาทางเลือกของรายได้ที่ค่อนข้างมีความสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนต้องสามารถยอมรับความเสี่ยงของการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศและแม้จะเป็นธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานก็ตามแต่ความผันผวนของการเป็นสินทรัพย์ประเภทหุ้นก็ยังคงมีอยู่บ้าง จึงแนะนำสำหรับผู้ที่สามารถลงทุนระยะยาวอาทิ 3 ปีขึ้นไป

Back to top button