SET บ่ายแกว่งตัวพักฐาน-ติดตามงบ บจ.พร้อมชู 3 ปัจจัยหนุน 12 หุ้นเด่นน่าเก็บ

SET บ่ายแกว่งตัว แนะติดตามงบ บจ.และ outlook ที่โบรกเกอร์ฯ ทยอยไป visit โบรกฯ ชู 10 หุ้นเด็ดน่า “ซื้อ” ในช่วงพักฐาน นำโดย AOT, SCC, IRPC, BJC, HMPRO, BEAUTY, ROBINS, EA, CK และ QH


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (10 ส.ค.) แกว่งตัวพักฐานหลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว และยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แนะติดตามงบ บจ.และ outlook ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งบวก-ลบ โดยเฉพาะกลุ่ม TIP เริ่มเห็นแรงขายแต่ยังไม่น่ากลัว มองเป็นจังหวะซื้อสะสม บ่ายนี้คาดตลาดฯแกว่งคล้ายช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,530 แนวต้าน 1,550-1,566 จุด

 

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งพักฐานบ้างหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปเร็ว ในขณะที่ตลาดฯ ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ช่วงนี้แนะติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและ outlook ที่โบรกเกอร์ฯ ทยอยไป visit ส่วนประเด็นอื่น ๆ ก็มีความชัดเจนพอสมควรแล้วด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยเฉพาะตลาดในกลุ่ม TIP เริ่มมีแรงขายมากขึ้นหลังจากปรับตัวขึ้นไปมากเช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นไทย อีกทั้งปัจจัยนอกประเทศขณะนี้ก็ยังไม่มีเรื่องใดเป็นประเด็นสำคัญ

โดยการพักตัวของตลาดฯ ในระยะนี้ไม่น่ากลัวและมองเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นมากกว่า โดยแนะนำหุ้นที่จะมีการปรับประมาณการเพิ่มขึ้น อย่าง TOP, GFPT รวมทั้ง CPALL, BJC ก็น่าจะดีรับผลจากการบริโภคที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้นแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวคล้ายกับช่วงเช้าที่มีการพักตัวบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,566 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (10 ส.ค.) ว่า   SET ภาคเช้า “ย่ำฐาน” สั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา และคาดว่าจะ “ผันผวน” ในกรอบ 1,530-1,566 จุด ก่อนปรับสูงขึนในระยะกลาง-ยาว ด้วยเป้าหมายสิ้นปี 1,620 จุด (อิงรายงาน The Revision ฉบับล่าสุด) โดยกลุ่มหุ้นที่แนะนำ “ซื้อ” ในช่วงการ “พักฐาน” ของ SET ได้แก่ AOT SCC IRPC BJC (การเข้ามา Listed ของลูกหุ้น 796 ล้านหุ้น เป็นโอกาสในการ “ซื้อ”) HMPRO BEAUTY ROBINS EA CK QH (ราคาหุ้นต่ำกว่า NAV มาก ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง Dividend Yield สูง 5% ต่อปี)

ในขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อ” รับเหมาฯที่ทำฐานรากอย่าง SEAFCO (PE17 12.7x ปันผล 2.8-3.9% แนวต้าน 13.0 บาท) และ PYLON (PE17 15.6x ปันผล 4.4-5.8% แนวต้าน 12 บาท) มีโอกาสรับรู้รายได้จากงานโครงสร้างพื้นฐานก่อนรับเหมาฯ ขนาดใหญ่ ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 13.50 บาท และ 13.0 บาท ตามลำดับ ล่าสุด รฟม.เร่งเปิด TOR รถไฟรางคู่ 5 เส้นทางภายใน 1-2 เดือนนี้ มูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

JAS    มูลค่าการซื้อขาย 2,381.42 ล้านบาท ปิดที่   5.90 บาท ลดลง   0.05 บาท

IVL    มูลค่าการซื้อขาย 1,893.57 ล้านบาท ปิดที่  35.50 บาท ลดลง   0.25 บาท

CPF    มูลค่าการซื้อขาย 1,289.64 ล้านบาท ปิดที่  29.50 บาท เพิ่มขึ้น  0.75 บาท

DTAC   มูลค่าการซื้อขาย 1,170.50 ล้านบาท ปิดที่  35.00 บาท เพิ่มขึ้น  2.00 บาท

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย 1,020.87 ล้านบาท ปิดที่ 201.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

Back to top button