ดาวโจนส์ปิดลบ 84 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ได้ออกมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า นอกจากนี้ ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (16 ส.ค.) ที่ 18,552.02 จุด ลดลง 84.03 จุด หรือ -0.45%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,227.11 จุด ลดลง 34.91 จุด หรือ -0.66% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,178.15 จุด ลดลง 12.00 จุด หรือ -0.55%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้

นายดัดลีย์กล่าวว่า” เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีการสร้างงานเพิ่มมากขึ้น เรากำลังเข้าใกล้ถึงจุดที่มีความเหมาะสมที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ซึ่งผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.” ขณะที่นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่การจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น และเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางที่เหมาะสม

หุ้นแอปเปิลได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า กองทุนโซรอส ฟันด์ เมเนจเมนท์ ของนายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังได้ลดการถือครองหุ้นบริษัทแอปเปิล อิงค์ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นแอปเปิลร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม หุ้นแอปเปิลปิดตลาดขยับลงเพียง 0.1% เพราะได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข่าวที่ว่า บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐ ได้ทุ่มซื้อหุ้นแอปเปิลจำนวนมากไว้ในพอร์ทในเดือนมิ.ย.

ด้านหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับตัวขึ้น 1% เนื่องจากแรงช้อนซื้อในช่วงท้ายตลาด หลังจากที่ราคาหุ้นบีเอชพีดิ่งลงในช่วงแรก อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 6.4 พันล้านดอลลาร์ในปีงบการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. ส่วนหุ้นโฮม ดีโปท์ ปรับตัวลง 0.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้น 5.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวในตลาดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยมีสาเหตุจากราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่รายงานของเฟดระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2014 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3%

นักลงทุนจับตารายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 26-27 ก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

Back to top button