SET บ่ายเสี่ยงพักฐานระยะสั้น-รอเฟดศุกร์นี้เน้นจำกัดพอร์ตสอย 4 หุ้นเด่นผลงานดีปี 59

บ่ายแกว่งตัว ตลาดฯกำลังรอดูสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากประธานเฟดในวันศุกร์นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,540 แนวต้าน 1,555 จุด โบรกฯแนะ “ซื้อ” BJC ชูเป้า 50 บ. ปัจจัยหนุนเพียบ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (24 ส.ค.) เคลื่อนไหวในแดนบวกลบ นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยในช่วงใกล้ปิดเทรดภาคเช้าปรับตัวขึ้นได้ดี คาดว่าจะเป็นเทคนิคเคิลรีบาวน์ จากแรงซื้อกลับที่เข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ หลังจากที่มีแรงขายออกมาในช่วงก่อนหน้านี้แล้วดัชนีฯไม่ปรับตัวลงมากนัก ขณะที่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานช่วยดันตลาดให้อยู่ในแดนบวกได้ หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ตลาดฯกำลังรอดูสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากประธานเฟดในวันศุกร์นี้ ส่วนบ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งคล้ายช่วงเช้า โดยน่าจะยืนในแดนบวกได้ พร้อมให้แนวรับ 1,540 แนวต้าน 1,555 จุด

 

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายใกล้ปิดเทรดภาคเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดี คาดว่าจะเป็นเทคนิคเคิลรีบาวน์ จากแรงซื้อกลับที่เข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ หลังจากที่มีแรงขายในช่วงก่อนหน้านี้แล้วดัชนีฯไม่ค่อยจะปรับตัวลง

อย่างไรก็ตามภาพรวมช่วงเช้าดัชนีฯแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยยังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ช่วยดันตลาดฯให้อยู่ในแดนบวกได้ ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดฯกำลังรอดูสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันศุกร์นี้ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับช่วงเช้า โดยดัชนีฯคงจะแกว่งตัวแต่ยืนในแดนบวกได้ พร้อมให้แนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555 จุด

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (24 ส.ค.) ว่า  SET ภาคเช้าแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณืไว้ โดยเฉพาะการปรับสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร วัสดุก่อสร้าง และค้าปลีก อย่าง KBANK, SCB, SCC, CPALL, และ BJC อย่างไรก็ดีเรายังมอง Upside จำกัดที่ 1,558 จุด ที่เป็นจุดสูงสุดเดิมเท่านั้น และยังมองความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” ระยะสั้น และเน้นจำกัดพอร์ต และกลยุทธ์ Selective ในกลุ่มหุ้นที่คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2559 ออกมาดี อย่าง BJC CPF HMPRO BEAUTY ต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อ” BJC ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 50 บาท: 1) คาดกำไรไตรมาส 3/59 แข็งแกร่งจากการรวมกำไร BIGC (ถือ 98%) เข้ามา เต็มไตรมาส 2) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่จะลดลงอีก จากการ refinance 3) การขยายสาขาในเชิงรุกมากขึ้น หนุนกำไรเติบโต 20% ในปี 2561 4) หุ้นยัง Under-own โดยนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ (ณ สิ้นเดือน มิ.ย กองทุนรวมฯไทย ถือ BJC เพียง 5 พันล้านบาท ซึ่งน้อยมาก เทียบกับขนาดกองทุนรวมฯที่เน้นลงทุนหุ้นในไทยกว่า 5 แสนล้านบาท) และด้วย Market Cap ที่ใหญ่อันดับ 20 +/- จะมีโอกาสสูงที่จะถูกนำเข้าไปรวมในดัชนี SET50 และ MSCI ภายในสิ้นปีนี้ 5) เป้าหมายทางเทคนิค 50.5 บาท และ 52 บาท ตามลำดับ

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย 1,409.67 ล้านบาท ปิดที่ 199.00 บาท เพิ่มขึ้น  3.00 บาท

SCC    มูลค่าการซื้อขาย 1,353.45 ล้านบาท ปิดที่ 518.00 บาท เพิ่มขึ้น  8.00 บาท

SCB    มูลค่าการซื้อขาย 1,218.95 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น  2.00 บาท

BBL    มูลค่าการซื้อขาย 1,161.79 ล้านบาท ปิดที่ 175.00 บาท เพิ่มขึ้น  0.50 บาท

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 1,056.12 ล้านบาท ปิดที่  61.50 บาท เพิ่มขึ้น  1.75 บาท

Back to top button