SYNEX มาแรง ธุรกิจเข้า High Seasonกูรูฟันธง! กำไร Q3 ทุบสถิติ-P/E ต่ำกลุ่ม

กูรูประสานเสียงเชียร์ "ซื้อ" SYNEX อนาคตสดใสเข้าช่วง High Season ใน Q3/59 หนุนกำไรแกร่งทุบสถิติ เดินหน้าผลักดันธุรกิจต่อเนื่อง ปันผลสูงปรี๊ด


กูรูประสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” SYNEX อนาคตสดใสเข้าช่วง High Season ใน Q3/59 หนุนกำไรแกร่งทุบสถิติ เดินหน้าผลักดันธุรกิจต่อเนื่อง ปันผลสูงปรี๊ด P/E ต่ำกว่ากลุ่มที่ 11.26 เท่า จากกลุ่มที่ 15.20 เท่า

แรงหยุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับ SYNEX ผู้นำสินค้าไอทีที่ครองส่วนแบ่งอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยราคาพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 รับเข้าช่วง High Season ในไตรมาส 3/59 กูรูหลายสำนักคาดการณ์กำไรทุบสถิติตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท นอกจากนี้มีแผนร่วมทุนกับพันธมิตรใหม่อีกเพียบ

 

โดยนางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปีนี้ จะสูงกว่าครึ่งปีแรกทั้งรายได้และกำไร โดยเฉพาะไตรมาส 3 ซึ่งเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรมไอที เนื่องจากช่วงปิดงบประมาณประจำปีของภาครัฐที่จะต้องเร่งใช้จ่ายเงิน ซึ่งก็จะมีการเร่งซื้อสินค้าไอทีโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ช่วงนี้

โดยครึ่งแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 10,553 ล้านบาท มั่นใจว่าทั้งปีรายได้รวมเติบโตราว 8-10% แตะระดับ 23,000 ล้านบาท นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ตั้งบริษัท อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ยังจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์ด้วยเพราะมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเงินได้ 400 ล้านบาท สำหรับเข้าซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจที่จะต่อยอดกับธุรกิจไอที ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในประเทศ โดยคาดว่าจะสรุปดีลได้ภายในไตรมาส 4/59 นี้ อีก 1 ดีล สำหรับเม็ดเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท ส่วนการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ บริษัทก็มองหาโอกาสการเข้าร่วมลงทุนในแถบอินโดจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งก็มองทั้ง 2 แนวทาง คือรูปแบบการร่วมลงทุน และเข้าซื้อกิจการ แต่คงยังไม่มีข้อสรุปในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายจากอินโดจีนเล็กน้อยราว 2-3% ซึ่งมีสาขาในเมียนมาแล้ว และมุ่งขยายตลาดในลาว กัมพูชาให้กว้างขึ้น

ส่วนล่าสุดบริษัทได้เปิดศูนย์ให้บริการ Huawei by SYNNEX ที่ MBK Center เพื่อจำหน่ายสินค้าและให้บริการหลังการขายที่รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนพิเศษ พร้อมทั้งเดินหน้าขยายศูนย์บริการทั่วประเทศในอนาคต ซึ่งมองไว้อีก 13 แห่ง ที่จะไปเปิดศูนย์บริการกับ Huawei ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

 

ด้านบล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์มอง SYNNEX มีปัจจัยหนุนจากเข้า High Season ในไตรมาส 3/59 ที่จะออกมาดีสุดของปี นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนร่วมทุนกับพันธมิตรใหม่ เพื่อทำธุรกิจเช่าซื้อเกี่ยวกับอุปกรณ์ IT คาดว่าจะเห็นความชัดเจนช่วงไตรมาส 4/59 รวมทั้งที่ผ่านมาราคาหุ้นได้ปรับตัวลงไปมากทำให้มี upside อีกทั้ง SYNEX เป็นหุ้นที่นอกเหนือจากกำไรดีแล้ว ยังมีการจ่ายปันผลที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีด้วย โดยมีการให้ปันผล 4% ต่อปี

 

ส่วนบล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” SYNEX ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท โดยมองว่ากำไรปี 59 อยู่ที่ 380 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อน สำหรับกำไรครึ่งปีแรกคิดเป็น 47% ของประมาณการกำไรปี 59 ทัังนี้มีมุมมองบวกต่อครึ่งปีหลังเนื่องจากความต้องการมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและจะสูงที่สุดในไตรมาส 4 ตามปัจจัยฤดูกาล

อีกทั้งการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ HUAWEI P9 คาดว่าจะหนุนยอดขายในครึ่งปีหลังเพิ่มเติม นอกจากนี้บริษัทกำลังเจรจาร่วมทุนดำเนินธุรกิจด้านปล่อยสินเชื่อเกี่ยวข้องกับสินค้าเทคโนโลยีซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 4 นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้บริษัทเติบโตต่อในปีหน้า คาดว่าปี 60 บริษัทจะรายงานกำไร 400 ล้านบาทเติบโต 5% จากปีก่อน คาดบริษัทจะจ่ายเงินปันผลทั้งปี 0.26 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลที่สูงถึง 4.44% ทำให้ Downside ค่อนข้างจำกัด

 

ขณะที่ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” SYNEX ราคาเป้าหมาย 6.95 บาท โดยมองว่าแม้ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 59 มีกำไรสุทธิ 81.1 ล้านบาท ลดลง 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลทางด้านฤดูกาลจากวันหยุด และรายได้ปกติจะต่ำในครึ่งปีแรกก่อนเพิ่มไปสูงสุดที่ไตรมาส 3 เป็นผลทางด้านฤดูกาลของบริษัท จึงคาดว่ารายได้จะเติบโต 6% มาอยู่ที่ 22,758 ล้านบาท ต่ำกว่าที่บริษัทประเมินไว้ที่ 8% ที่  23,000 ล้านบาท

โดยรายได้จาก Huawei ทั้งในส่วนของ Commercial และ Mobile ยังเติบโตได้ดี แต่ในส่วนของ Mobile ยังเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ได้แรงหนุนจากกระแส P9 ที่มีคุณภาพสูงเมื่อเทียบกับราคา เป็นทางเลือกที่ดีของผู้ใช้ OS Android

ทั้งนี้มองอัตรากำไรข้างต้นจะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง คือไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยคงอัตรากำไรทั้งปีที่ 5% เท่ากับปีก่อน อย่างไรก็ตาม SYNEX มีกำไรสม่ำเสมอ และคู่แข่งสามารถเอาชนะได้ยาก นอกจากนี้บริษัทยังครองส่วนแบ่งการตลาดในระดับต้นของในประเทศไทย รวมถึงการบริหารการสต๊อกสินค้า IT ที่ราคาสินค้าเสื่อมค่าตามเวลาเร็วกว่าสินค้าชนิดอื่น 

ทั้งนี้มองว่าราคาหุัน SYNEX น่าจะขึ้นต่อได้ หลังได้ปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่งช่วง High Season ใน Q3  จะโกยกำไรอย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังเดินหน้าต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่องเก็งกำไรระยะยาว รวมทั้ง P/E ยังต่ำว่ากลุ่มที่ 11.26 เท่า จากกลุ่มที่ 15.20 เท่า 

 

ด้านราคาหุ้น SYNEX  ปิดตลาดวานนี้ (15 ก.ย.) อยู่ที่ 5.50 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 0.92% มูลค่าซื้อขาย 5.42 ล้านบาท

Back to top button