บลจ.ธนชาต เสนอขายกอง LTF ชู Low Beta ลงทุนหุ้นผันผวนต่ำกว่าตลาด ขาย 22-28 ก.ย.

บลจ.ธนชาต เสนอขายกอง LTF ชู Low Beta ลงทุนหุ้นผันผวนต่ำกว่าตลาด ขาย 22-28 ก.ย.


นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า บลจ.ธนชาต ได้เปิดเสนอขายกองทุน LTF กองใหม่ เน้นเจาะผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการรับความผันผวนจากการลงทุนในหุ้น แต่ก็ไม่พอใจกับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำในปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนเพิ่มเติม เพราะแม้ บลจ.ธนชาต จะมีกองทุน T-LowBetaRMF อยู่แล้ว แต่พบว่ายังมีผู้ลงทุนที่ลงทุนแต่กองทุน LTF โดยไม่ลงทุนในกองทุน RMF เลย เพราะรู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาลงทุนหรือต้องใช้เวลาลงทุนนานเกินไป

ทั้งนี้ มองเห็นช่องว่างว่ายังมีผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) แต่ไม่สามารถรับความผันผวนของหุ้นที่ราคาขึ้นลงได้ หรืออาจเป็นผู้ลงทุนที่ยังคุ้นชินกับการลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝากมากกว่า ทำให้พลาดโอกาสที่จะลงทุนกองทุน LTF กับ บลจ.ธนชาต

โดยบลจ.ธนชาต เองก็เป็นผู้ริเริ่มด้านกองทุนหุ้นผันผวนต่ำอยู่แล้ว โดยเริ่มส่งกองทุน T-LowBeta และ T-LowBetaRMF เข้าสู่ตลาดเมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกองทุนก็สามารถทำผลตอบแทนได้ดีจนได้รับการพูดถึงในวงกว้างว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจ ดังนั้นจึงเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีที่จะเปิดขายกองทุน LTF ที่มีนโยบายแบบนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้นักลงทุนอีกกองหนึ่ง

สำหรับกองทุนเปิดธนชาต Low Beta หุ้นระยะยาวปันผล (T-LowBetaLTFD) ที่ออกใหม่นี้ เป็นกองทุนหุ้นระยะยาวที่เน้นลงทุนในหุ้นที่ผันผวนต่ำกว่าตลาด ซึ่งปกติมักจะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความได้เปรียบเชิงแข่งขัน มีโอกาสรับรายได้ที่ชัดเจน และจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ โดยกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละไม่เกิน 1 ครั้ง เสนอขายครั้งแรก 22-28 กันยายน 2559

ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีเหมือนกองทุนประเภท Low Beta ที่ปัจจุบันมีอยู่ 2 กองทุน คือ T-LowBeta และ T-LowBetaRMF เนื่องจากกองทุนมีนโยบายที่เหมือนกัน คือ เน้นลงทุนในหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวของราคาเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ต่ำกว่า 1 โดยหลักการ คือ จะปรับตัวขึ้นและลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโดยรวม ซึ่งแม้ว่าในช่วงที่ตลาดขาขึ้นจะปรับตัวขึ้นไม่เท่าตลาด แต่จุดที่น่าสนใจ คือ ในช่วงตลาดขาลงราคาจะปรับลงน้อยกว่าตลาดนั่นเอง

โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุน T-LowBeta ตั้งแต่ต้นปีสามารถทำผลตอบแทนได้ถึง 11% (SET Index 15.89%) และในปีที่ผ่านมา แม้ตลาดหุ้นไทยติดลบถึง -14% แต่กองทุนยังสามารถทำผลตอบแทนได้เป็นบวกมาอยู่ที่ 2.61% ส่วนกองทุน T-LowBetaRMF ตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทนอยู่ที่ 10.94% (SET Index 15.89%) และในปีที่ผ่านมาผลตอบแทนก็เป็นบวกเช่นเดียวกัน คือ 2.53% (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ก.ย. 59)

ปัจจุบันกองทุน LTF ของ บลจ.ธนชาต มี 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดธนชาต Big Cap ระยะยาว หรือ T-BigCapLTF ที่เน้นการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ และกองทุนเปิดธนชาตหุ้นระยะยาวปันผล หรือ T-LTFD  ที่เน้นการลงทุนในหุ้นศักยภาพสูง และมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง หากกองทุนมีกำไร ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าสนใจตั้งแต่จัดตั้งกองทุน โดยกองทุน T-BigCapLTF ทำผลงานได้ 218.76% (SET Index 128.78%) และ T-LTFD ทำผลงานได้  223.07% (SET Index 128.78%) (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ก.ย. 59)

Back to top button