SET ขึ้นต่อ เปิดเมนู 12 หุ้นร้อน Laggard-กำไร Q3 โต

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังมีโอกาสขึ้นต่อตามทิศทางต่างประเทศ ขณะที่ฟันด์โฟลว์ยังแข็งแกร่ง การลงทุนแนะนำหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/59 ดี และราคายัง Laggard


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.40 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.65 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสลับอยู่ในแดนบวกและลบ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังมีโอกาสขึ้นต่อตามทิศทางต่างประเทศ ขณะที่ฟันด์โฟลว์ยังแข็งแกร่ง การลงทุนแนะนำหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/59 ดี และราคายัง Laggard หุ้นเด่นเลือก BANPU-BEAUTY-BJC-KTC-THANI-INTUCH-IRPC-TOP-MINT-LST-TACC และ TPCH

 

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.)แม้ Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.แต่การลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะยาวต่ำกว่า 3% ส่งผลให้กระแสเงินทุนเร่งตัวเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น (Risk-on) และทำให้ Dow Jones +0.54% ราคาน้ำมันดิบ Brent +1.75% เมื่อคืนนี้ และคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อ SET ปรับสูงขึ้นต่อวันนี้ ในกรอบ Uptrend ระยะสั้นเป้าหมาย 1,520 จุด

แม้ Valuation ของ SET จะสูงที่ PE 16.5 เท่าแต่ต้องยอมรับว่า Momentum ตลาดแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะการลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะยาวของ Fed ส่งผลให้นักลงทุนอยู่ในสถานะ Risk-on มากขึ้น จึงแนะนำ “Trading” ด้วยสัดส่วนเงินที่เพิ่มขึ้น และปรับ Trailing Stop ขึ้นมาที่ 1,486 จุด ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นของ SET ที่ 1,520 จุด

แนะนำ “ซื้อ” 1) การบริโภคเร่งตัว, กำไรไตรมาส 3/59 เด่น อย่าง BEAUTY และ BJC โดยราคา BJC ยัง Laggard กลุ่มค้าปลีกมาก 2) ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำยาว ปันผลสูง : KTC THANI (Laggard กลุ่ม Leasing ใหญ่อย่าง TISCO KKP) INTUCH (ปันผล 8.4%) 3) เข้าสู่ Seasonal High ในไตรมาส 4/59 อย่างโรงกลั่น + ท่องเที่ยว : IRPC TOP MINT

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.) คาด SET วันศุกร์ขึ้นต่อ ตามฟันด์โฟลว์แข็งแกร่ง (วานนี้หุ้นใหญ่นำดัชนีขึ้นตามคาด) ดัชนีเงินดอลลาร์ฯ อ่อนต่อ ดันเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และยังหนุนแรงซื้อต่างชาติ ท่ามกลางมุมมองที่ว่า ธ.กลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งรวม 0.50% ในปี 2560 (น้อยกว่าเดิมที่คาดกันว่าปีหน้าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง; ส่วนแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. ปีนี้ เป็นที่รับรู้กันทั่วไปแล้ว) ขณะที่ตัวเลขสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืน ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง และดัชนี Leading Indicator ส.ค. ล้วนต่ำกว่าคาด ยิ่งกดดันค่าเงินดอลล่าร์ฯ ในช่วงสั้น

ส่วนสัปดาห์หน้าคาดจิตวิทยาของ SET ยังดี หนุนโดยประเด็นการลงทุนภายใน ได้แก่ รายละเอียดมาตรการเพิ่มกำลังซื้อของผู้มีรายได้น้อย, ตัวเลขเศรษฐกิจไทย ส.ค. และท้ายสุดยังมองว่าจะมีแรงซื้อปิดงวดบัญชีไตรมาส 3/2559 หลังจากนักลงทุนสถาบันได้ปรับพอร์ตขายหุ้นไปมากในช่วงต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เชิงวิเคราะห์ PE band ประเมินดัชนีฯ จะเริ่มพักตัวหากขึ้นถึง PE band 17 เท่าของ EPS ไตรมาส 3/59 หรือ SET Index ที่ 1,520 จุด

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร LST, TACC สะสม TPCH

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.) แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาด SET Index ยังมีโอกาสขึ้นต่อ ตามทิศทางตลาดต่างประเทศที่ยังขานรับเฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.25-0.5% ตามเดิม โดยหุ้นในกลุ่ม Big Cap จะยังเป็นกลุ่มนำตลาดโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจน้ำมัน (PTT, PTTEP) และโรงกลั่น (TOP, SPRC, IRPC, ESSO) ซึ่งได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 รวมไปถึงกลุ่มถ่านหิน (BANPU, LANNA, UMS, AGE) ซึ่งได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น 2.55$/ton ปิดที่ 73.95$/ton ทำ New high ในรอบกว่า 2 ปี และ กลุ่มเดินเรือ (TTA, PSL, RCL) ซึ่งดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) เพิ่มขึ้นอีก 34 จุดปิดที่ 937 จุด เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 และทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี

อย่างไรก็ตาม หากดัชนีปรับตัวขึ้นแรงอาจจะมีแรงขายทำกำไรกดดันในช่วงท้ายตลาดเนื่องจากนักลงทุนบางส่วนอาจจะเทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาด SET ยังปรับตัวขึ้นต่อได้โดยมีปัจจัยบวกจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังไหลเข้า และการซื้อกลับของนักลงทุนสถาบันจากการทำ Window dressing โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้าคือการประชุมนอกรอบของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบในช่วงวันที่ 26-28 ก.ย.ว่าจะมีการออกมาตรการในการพยุงราคาน้ำมันดิบออกมาหรือไม่ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบและการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานในสัปดาห์หน้า

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BANPU (เป้า 20 บาท) ราคาถ่านหินพุ่งทำ New high ในรอบกว่า 2 ปี

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากทิศทางดอกเบี้ยต่ำของเฟด โดยปีหน้าคาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง ยังเป็นปัจจัยหนุนการลงทุนในสินทรัพย์ ส่วนสัปดาห์หน้าติดตามการประชุมนอกโอเปค กรณีสามารถหาข้อตกลงการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันได้ หุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะกลับหนุนดัชนีตลาดไทยได้

กลยุทธ์การลงทุน วางจุด Filter แนวรับสำคัญ 1,490 จุด หากยืนได้ทิศทางดัชนียังคง Sideway Up ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,520 จุด

Back to top button