จับตาน้องใหม่ป้ายแดง “BCPG”เทรดวันแรกเหนือจองได้ถือว่าเลิศ

จับตาน้องใหม่ป้ายแดง "BCPG" เทรดวันแรกวิ่งเหนือจอง IPO ที่ 10 บาทได้ถือว่าเลิศ! เหตุตลาดหุ้นอยู่ในช่วงวิกฤต ผันผวนหนัก คาดนักลงทุนยังชะลอการลงทุน


จับตาน้องใหม่ป้ายแดง “BCPG” เทรดวันแรกวิ่งเหนือจอง IPO ที่ 10 บาทได้ถือว่าเลิศ! เหตุตลาดหุ้นอยู่ในช่วงวิกฤต ผันผวนหนัก คาดนักลงทุนยังชะลอการลงทุน

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าหุ้น BCPG ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันนี้ (28 ก.ย.) เป็นวันแรกนั้นจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี

โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ ไปลงทุนขยายธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ โดย BCPG มีเป้าหมายขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ โรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวสู่เป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งเพิ่มเป็น 1,000MW ภายในปี 63

เรามีเป้าหมายลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศต่างๆ โดยไม่จำกัดเฉพาะประเทศในแถบเอเชียเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังศึกษาโอกาสเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในทวีปต่างๆ ซึ่งในการตัดสินใจแต่ละโครงการนั้น จะเลือกลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าโดยพิจารณาจากประเภทเชื้อเพลิงที่เหมาะสมกับประเทศนั้นๆ ควบคู่กับการพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่าอีกด้วย”นายบัณฑิต กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน BCPG มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวมประมาณ 324MW โดยมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวมทั้งสิ้น 130MW แบ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 118MW และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 12MW ที่คาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปีนี้

ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวมประมาณ 194MW แบ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวมประมาณ 20MW และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวมประมาณ 174MW

 

ส่วนนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด หรือ บล.ทิสโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า รัฐบาลในหลายประเทศได้เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานรองรับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจของ BCPG ในการขยายธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก เนื่องจากมีความพร้อมด้านเงินทุน ตลอดจนมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการประกอบธุรกิจ จึงเชื่อมั่นว่าการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของ BCPG จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้และช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต

 

สำหรับ BCPG ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและเป็นบริษัทในเครือบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP จะเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 28 ก.ย.59 ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) 1,990,000,000 หุ้น จำนวนหุ้นชำระแล้ว 1,990,000,000 หุ้น ราคา Par 5.00 บาทต่อหุ้น ทุนชำระแล้ว 9,950,000,000.00 บาท จำนวนหุ้น IPO 590,000,000 หุ้น ราคา IPO 10.00 บาท

ด้านผลประกอบการของบริษัทปี 58 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.15 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.92พันล้านบาท ขณะที่ ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/59 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 459.45 ล้านบาท หรือลดลง 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 563.40 ล้านบาท ด้าน 6 เดือนแรกของปี 59 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 849.68 ล้านบาท หรือลดลง 23% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 1.11พันล้านบาท

 

ขณะที่ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมาย BCPG ณ สิ้นปี 60 อยู่ที่ 12.40 บาท คำนวณจากวิธี DCF-SOTP โดยรวมทั้งโครงการในไทย 130MW และโครงการที่ญี่ปุ่น 117MW และอีก 77.1MW ที่ญี่ปุ่นจะรวมเข้ามาในประมาณการหลังจากที่เชื่อมต่อระบบแล้ว โดยทุก 20MW ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้มูลค่าที่เหมาะสมเพิ่มขึ้น 0.23 บาท และคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 60-70% ของกำไร

ทั้งนี้ BCPG ประกอบธุรกิจโซล่าฟาร์มขนาด 118MW ภายในประเทศภายใต้สัญญา PPA โดยมี Adder 8 บาท/kwh โดยได้เริ่ม CoD มาแล้ว 3 เฟสในช่วงปี 54-57 โดยมี EBITDA/MW เพิ่มขึ้นจาก 19 ล้านบาท ในเฟสที่ 1, 25 ล้านบาท ในเฟสที่ 2 และ 27 ล้านบาท ในเฟสที่ 3 เป็นไปตามต้นทุนการลงทุนที่ลดลง

รวมทั้ง BCPG ได้ชนะการประมูล PPA กำลังการผลิต 12MW ภายใต้โครงการโซล่าฟาร์มสหกรณ์ คาดว่าจะเริ่ม CoD ในช่วงไตรมาส 1/60 โดยคาด EBITDA/MW อยู่ที่ 6.30 บาท และคาด EBITDA จากการดำเนินงานในปี 59 ที่ 2.7 พันล้านบาท สำหรับโครงการนี้และจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.9 พันล้านบาทในปี 60

 

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า ราคาหุ้น BCPG มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นเหนือราคา IPO ได้ไม่มากนัก เนื่องจากในสภาวะตลาดอยู่ในช่วงผันผวนในด้านลบ ส่งผลให้ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบค่อนข้างมากจึงคาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะชะลอการลงทุนในช่วงภาวะดังกล่าว

Back to top button