SET อ่อนตัว ยังหวังแรงหนุนหุ้นพลังงานชู 9 หุ้นเด่น เน้นแนวโน้มแกร่งกว่าตลาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.58/60 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากได้แรงหนุนจากสกุลเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น หลังญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เปิดตลาดปรับตัวหรือแกว่งตัวลงต่อ ก่อนฟื้นตัวได้ โดยคาดว่าหุ้นน้ำมันจะหนุนตลาด หลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX กลับมายืนเหนือ US$50 ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มน้ำมัน และกลุ่มโรงกลั่นจะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนในไตรมาสที่ 1/58 โดยให้แนวรับสำคัญที่ 1460 จุด

หุ้นเด่นเลือก PTTGC-PLAT-CHUO-BCP-TOP-PTTEP-PLANB-GUNKUL และ RCL

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มี.ค.) สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้น ยังอ่อนแอ จากตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอล่าสุดส่งออกเดือน ก.พ.หดตัว -6.14% จากปีก่อน และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกดดัน Sentiment ตลาดหุ้นโลกอย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากกำไรเติบโตสูง 32.8% ปีนี้ และ GDP เร่งตัวขึ้นเป็น +3.8% ปีนี้ อีกทั้งความชัดเจนของรัฐธรรมนูญภายใน 6 เดือนข้างหน้า ทำให้ยังมอง “บวก” ระยะ 1-3 เดือนข้างหน้าต่อไป

ทั้งนี้ SET มีแนวรับสำคัญที่ 1,460 จุด.กลยุทธ์หลักอิง Tactical Portfolio แนะนำ “รอซื้อ” เมื่อมีสัญญาณฟื้นตัว ด้วยน้ำหนักลงทุนหุ้นที่ 80% ของพอร์ต และแนะนำ “เก็งกำไร” PTTGC ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 54.25/55.25 บาท จาก 1) ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน ลดแรงกดดัน Inventory Loss ขณะที่ Petrochemical Spread ฟื้นตัว และค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูง อีกทั้ง Valuation ไม่สูงที่ PE 10.7-8.7 เท่า ในปี 2015-16

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มี.ค.) คงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 6 แม้ว่า SET INDEX ปิดหลุดแนว 1,500 จุดวานนี้ คาดว่า SET INDEX จะเกิด Technical Rebound บริเวณ 1,490-1,495 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มพลังงาน หลังสถานการณ์ในเยเมน ทำให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX กลับมายืนเหนือ US$50 ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มน้ำมัน / โรงกลั่น จะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนในไตรมาสที่ 1/58 และช่วยจำกัด Downside risk ของ SET INDEX ในช่วงสั้นๆ นี้

ขณะที่ตัวเลขการส่งออกเดือนก.พ.ที่หดตัว 6.14% จากปีก่อนและทำให้ครึ่งปีหลังของปี 58 ส่งออกหดตัว 4.82% จากปีก่อนส่งสัญญาณเสี่ยงต่อภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งแรกของปี 58 แต่ประเด็นนี้อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ SET INDEX โดยรวมจำกัด เพราะกลุ่มส่งออกมีน้ำหนักในตลาดหุ้นไทยเพียงเล็กน้อย

ทั้งนี้ ภาพ SET INDEX จะแกว่งในกรอบแคบไปอีกสักระยะหนึ่ง เพราะหากพิจารณาในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า เป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย มูลค่าการซื้อขายจะยิ่งเบาบางมากยิ่งขึ้น ภายใต้ปัจจัยการลงทุนที่ขาดความชัดเจนทั้งในด้านลบ และด้านบวก ส่งผลให้ SET INDEX จะเป็นการแกว่งซึมตัว

สำหรับเม็ดเงินใหม่จากกองทุนทริกเกอร์ฟันด์รอบนี้ 3-4 พันล้านบาทที่จะทยอยเข้าลงทุนในสัปดาห์หน้า อาจเป็นอีกปัจจัยที่สามารถสร้างสีสันการลงทุนในหุ้นรายตัวได้บ้าง แต่เชื่อว่าจะยังไม่สามารถจุดกระแสการลงทุนเชิงบวกกลับมายังตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ได้

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนอาจพิจารณาถือพอร์ตเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อรอขายทำกำไรในช่วงที่เริ่มทำ Window Dressing หรือใช้ผลตอบแทนจากการลงทุนรอบสั้นราว 5-10% เป็นตัวกำหนดAccumulative Buy: BCP

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มี.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ คาด SET วันศุกร์เปิดลงต่อ/แกว่ง ก่อนฟื้นตัวได้ หนุนโดยหุ้นน้ำมัน (วิกฤตเยเมนดันราคาน้ำมัน +4.9% สูงสุด 3 สัปดาห์) และแรงซื้อจากฝั่งกองทุน (ทำปิดงวดไตรมาส 1 และซื้อเพื่อทริกเกอร์ฟันด์) แต่ปัจจัยภายนอกยังคงไม่ชัดเจนโดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีๆร้ายๆ และปัญหาหนี้สินกรีซยังไม่มีข้อสรุป (โดยคงมองว่ากรีซจะหาข้อสรุปได้ภายในช่วงสงกรานต์)

ด้านจิตวิทยาภายในยังเปราะบางหลังดัชนีหลุด 1500 จุดบ่ายวานนี้ ส่งผลให้การรีบาด์ยังจะจำกัด ทั้งนี้มอง SET มีความเสี่ยงต่ำแล้วหลังลง 7.25% จาคพีค และเทรดที่ PE สิ้นปี 58 ที่ 15.1 เท่า (ถือว่าไม่แพงสำหรับการลงทุน 9 เดือน) ส่วนระยะสั้นเรามอง downside เชิง PE band ที่ 1470 จุด อิง PE 17 เท่า บน EPS กลางปี 58

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐานเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน (TOP,PTTEP) และ PLANB

 

บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มี.ค.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน SET Index ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1500 จุด โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าระดับ SET Index ที่สามารถเข้าสะสมหุ้นรอบใหม่ และสามารถสร้างผลตอบแทนได้คุ้มความเสี่ยงควรอยู่ที่ราว 1442 – 1485 จุดโดยเลือกหุ้นพื้นฐานแกร่งและปันผลดี สำหรับการลงทุนระยะยาว ส่วนการลงทุนระยะสั้นแนะเลือกหุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนชนะตลาด โดยเฉพาะในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ มี GUNKUL ([email protected]) และ RCL (FV@B 13.1) เป็น Top Pick

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มี.ค.) ว่า สัญญาณทางเทคนิคแสดงภาพแบบ breakdown และพบว่ารูป candlestick แสดงภาพการอ่อนลงของดัชนีตลาดใต้เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 วันและ macd ยังมีค่าติดลบที่ -16.49 ใต้ signal line แสดงให้เห็นว่าสัญญาณแนวโน้มลงยังเกิดขึ้นอยู่แต่อย่างไรก็ตามเราเห็นว่าตลาดกำลังเริ่มสร้างฐานอยู่เนื่องจากสัญญาณขายได้เกิดขึ้นใต้เส้น MA25 มา 21 วันแล้ว

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1480-1520 จุด หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่กรอบแนวรับ-แนวต้านหุ้นที่น่าสนใจPLAT-CHUO