SVI บวก 4.39% นิวไฮในรอบ 2 ปี 3 เดือน – ลุ้นกำไร Q4/59 ทำสถิติสูงสุดของปี

SVI บวก 4.39% นิวไฮในรอบ 2 ปี 3 เดือน ล่าสุด ณ เวลา 15.20 น. ราคาอยู่ที่ 5.95 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 4.39% สูงสุดที่ 6.00 บาท ต่ำสุดที่ 5.70 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 190.34 ล้านบาท โบรกฯ แนะ “ซื้อ” ชูเป้า 6.60 บาท คาดกำไร Q4/59 ทำสถิติสูงสุดของปี – มองแนวโน้มกำไรปี 60 โตต่อเนื่องหลังขยายไลน์สินค้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ณ เวลา 15.20 น. ราคาอยู่ที่ 5.95 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 4.39% สูงสุดที่ 6.00 บาท ต่ำสุดที่ 5.70 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 190.34 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวสูงสุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน ตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 6.05 ณ วันที่ 11 เดือน พฤศจิกายน 2557

SVI20170207

ด้านบล.เคทีบี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (7ก.พ.) ว่า บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ในช่วงปีที่ผ่านมาหลังประสบเหตุอัคคีภัยตอนปลายปี 2557 บริษัทก็มาติดปัญหาคอขวดอีก นั่นก็คือ ตัว Tester ถูกไฟไหม้เสียหายหมด ทำให้บริษัทมีกำไรปกติค่อนข้างต่ำ แต่โชคยังดีที่บริษัทได้ทำประกันอัคคีภัยไว้ ทำให้ได้เงินชดเชยจากเหตุไฟไหม้ทั้งหมดกว่า 3,755 ล้านบาทซึ่งเริ่มได้รับตั้งแต่ไตรมาส 4/57 กำไรสุทธิจึงสูงมากในปี 2558 และ 2559 โดยเงินชดเชยดังกล่าวได้รับครบแล้วตั้งแต่ ไตรมาส 3/59 ดังนั้น กำไรสุทธิของ SVI ใน ไตรมาส4/59 จะกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว

อีกทั้งปัญหาคอขวดที่เคยกังวลกันก่อนหน้านี้ได้หมดไปแล้วเพราะตัว tester กลับมาใช้งานได้ 100% เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์ที่เคยค้างส่งในช่วงไตรมาสที่ผ่านๆ มาจะถูกทยอยส่งออกมากขึ้น ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่ากำไรปกติ ไตรมาส4/59 ของ SVI จะทำสถิติสูงสุดของปีที่ระดับ 144 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 373.7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, 430.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)

สำหรับแนวโน้มกำไรปกติปี 2560 มองว่าจะเติบโตได้ต่อ เนื่องจาก 1) ปัญหาคอขวดที่หมดไปทำให้ส่งสินค้าออกได้ตามปกติที่ผลิตได้ 2) การแตกไลน์สินค้ามากขึ้นซึ่งจากไตรมาส3/59 ที่ผ่านมาก็มีการผลิตสินค้าใหม่ไปกว่า 6 ชนิดแล้ว และในปี 60 ก็จะมีลูกค้าด้าน Automotive เข้ามาเพิ่ม 3) จากผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยในแถบสแกดิเนเวียที่ดีขึ้น อย่างบริษัท Seidel ที่ SVI เข้าไปซื้อกิจการไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2559 คาดว่าจะมี margin ที่ดีขึ้น เพราะมีการปรับปรุง facility และซื้อเครื่องจักรใหม่ นอกจากนี้การเข้าไปซื้อกิจการดังกล่าวมายังทำให้ตัว SVI ที่ประเทศไทยได้รับลูกค้าเพิ่มมากขึ้นด้วย และ 4) โรงงานใหม่ในกัมพูชาที่กำลังจะเปิดดำเนินการในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งค่าจ้างแรงงานค่อนข้างถูก เราจึงมองว่ากำไรปกติปี 2560 จะสามารถเติบโตไปอยู่ที่ 757 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 205.8%) ได้

ทั้งนี้มีมุมมองว่าแนวโน้มกำไรปกติของ SVI จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ ไตรมาส 4/59 นี้จากปัญหาต่างๆ ที่หมดไปแล้วและการขยายตัวของธุรกิจ จึงเริ่มต้นให้คำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท (PER เฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 19.63 เท่า และ EPS ปีนี้ 0

Back to top button