สังคมข่าวหุ้น

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,566.66 จุด ปรับลดลง2.12 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 3.5 หมื่นล้านบาท


นิวส์เวฟ

 

 ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,566.66 จุด ปรับลดลง2.12 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 3.5 หมื่นล้านบาท * ฟากกลุ่มเข้าซื้อสุทธิรายย่อยเก็บไป 908 ล้านบาท ตามด้วยต่างชาติ 51 ล้านบาท ส่วนฝั่งเทขายสุทธิสถาบันสาดออก 760 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 199 ล้านบาท

* เริ่มกันด้วยหุ้นแรกขอเลือกพี่ JAS ที่วันนี้น่าคึกคักกันไม่เบา * โดยเป็นผลมาจากในวันนี้ถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะซื้อหุ้นเพื่อรับปันผล 25 สตางค์ * ดีดออกมาเป็นดิวิเดนด์ยีลด์สวยใช้ได้เลยถึง 3% * มีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 มี.ค.นี้ ย้ำอีกครั้งต้องซื้อภายในวันนี้เท่านั้นนะถึงจะได้ปันผล * ขณะที่ในแง่พื้นฐานเห็นมีหลายคนถามไถ่กันว่า ปีนี้จะกลับมาเติบโตขึ้นได้หรือยัง?? * ซึ่งแม้ภาพรวมธุรกิจบอร์ดแบนด์ช่วงนี้จะแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ในแง่ของ JAS ยังมีโอกาสเติบโต * สะท้อนได้จากฐานลูกค้าในมือที่เพิ่มกันแบบรวดเร็ว จนล่าสุดพุ่งไปถึงระดับ 2.5 ล้านรายกันแล้ว * แล้วนี่ยังมีสตอรี่บวกที่หลายคนมองข้ามกันไป คือ แผนขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงของบริษัทลูกให้กับ JASIF * ซึ่งมีมูลค่ารวมตกประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท และจะเสนอเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติทำรายการช่วงเดือน เม.ย.นี้ * หากทุกอย่างไฟเขียวเดินหน้าไปได้ด้วยดี งานนี้หลังทำรายการเสร็จ JAS มีสิทธิบุ๊คกำไรพิเศษเข้ามาอีก เผลอๆ อาจจะมีการปันผลพิเศษพ่วงออกมาตามด้วย จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่แฟนหุ้น JAS ห้ามพลาดเด็ดขาด

* หุ้น  BIG เป็นอีกหนึ่งหุ้นโกรทสต๊อกที่เหมาะเข้าลงทุนไม่เบา * เนื่องจากแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรกยังมีโอกาสเติบโตดี * มีแรงหนุนมาจากยอดขายกล้องที่ยังได้รับความนิยมสูง * ที่สำคัญช่วงสิ้นเดือน มี.ค.-ต้นเดือน เม.ย. ยังมีการจัดงานกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขายเข้าไปอีก * ดังนั้น ผลบวกนี้จะสะท้อนเข้ามาเต็มๆ ในช่วงไตรมาส 2 เรียกได้ว่า ภาพรวมงวดครึ่งปีแรกเทรนด์กำไรสดใสอย่างมาก * ฟากโบรกฯ มองบวกขานรับพื้นฐาน ให้ราคาเป้าหมายกันไว้สูงถึง 7 บาท * ดีดออกมาเป็นอัพไซด์สูงท่วมกว่า 30% และหุ้นยังซื้อขายกันด้วย P/E ระดับ 22 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E กลุ่มที่อยู่ระดับ 30 เท่า ปัจจัยบวกแน่นเต็มมือจริงๆ

* หุ้นใหญ่ขอเลือกหุ้น CPF เพราะนอกจากพื้นฐานยังดีแล้ว แต่ราคาหุ้นยังวิ่งช้ากว่าเพื่อนหุ้นไก่ด้วยกัน * โดยตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.ถึงปัจจุบันหุ้น CPF บวกขึ้นมาได้เพียง 3-4% เท่านั้น สวนทางกับ GFPT และ TFG ที่บวกไปแล้วกว่า 10% * ดังนั้น CPF จึงตกอยู่ในภาวะราคาหุ้นวิ่งช้ากว่าใครเพื่อน แถม P/E ก็ยังเทรดต่ำแถว 14 เท่า * ราคาเป้าหมายโบรกฯ เคาะกันไว้แถว 40 บาท งวดปี 60 ทิศทางกำไรยังเติบโตเด่น ถือเป็นอีกหุ้นชั้นดีที่น่าเป็นเจ้าของ

* หุ้น FSMART ราคาถอยกลับมาอยู่ในจุดที่น่าทยอยเข้าสะสมกันอีกรอบ หลังจากที่ผ่านมาเจอปัจจัยความกังวลคู่แข่งหน้าใหม่จะเข้ามาแย่งตลาด * แต่เอาเข้าจริงแล้วแทบไม่กระทบบริษัท เพราะรูปแบบของแต่ละรายมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันพอตัว * ที่สำคัญอย่าลืมว่ายอดเติมเงินผ่านตู้บุญเติมยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นไม่เปลี่ยน * เพราะฐานลูกค้า AIS ยังไหลเข้าใช้บริการผ่านตู้บุญเติมหนาแน่นแทนการซื้อในร้าน 7-11 * ส่งผลให้งวดไตรมาสแรกทิศทางกำไรยังเด่นและโตได้ดี * ปัจจุบันหุ้นเคลื่อนไหวกันอยู่แถว 18 บาท นับเป็นจังหวะที่ดีต่อการเข้าสะสมและรอรับประเด็นงบไตรมาสแรก

* ปิดท้ายกันด้วยหุ้นแม่-ลูกที่เมื่อวานควงคู่วิ่งแรงเอาเรื่อง TPOLY-TPCH * การปรับตัวขึ้นทั้งแม่-ลูกเป็นผลมาจากพื้นฐานธุรกิจปี 60 ที่มีโอกาสทำได้โดดเด่นทั้งคู่ * ฝั่งตัวแม่นับเป็นงวดปีที่กลับมาเทิร์นอะราวด์ด้วยตัวธุรกิจที่กำลังฟื้นตัวและบุ๊คผลตอบแทนจาก TPCH * ส่วนตัวลูกโดดเด่นด้วยรากฐานธุรกิจพลังงานทดแทนที่กำลังโตวันโตคืน * สายเทรดดิ้งรับความเสี่ยงได้เลือกไปตัวแม่ TPOLY ที่กำลังร้อนแรง * ขณะที่สายเพลเซฟเน้นความปลอดภัยไว้ก่อนน่าจับจองไปที่ TPCH ได้เลย *

Back to top button