GL ยิ่งแก้ แผลยิ่งลึก

นักลงทุนกลุ่มที่ต้องแปลงสถานะเป็น “ชาวดอย” กับหุ้นบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ในช่วงเดือนที่ผ่านมา พยายามจะใช้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” เป็นที่ระบายอารมณ์กันจ้าละหวั่นเพื่อหา “แพะ” โดยลืมไปว่าสื่อที่ทำน้าที่ “หมาเฝ้าบ้าน” นั้น ไม่ได้พบกันง่ายๆ..


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

 

นักลงทุนกลุ่มที่ต้องแปลงสถานะเป็น “ชาวดอย” กับหุ้นบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ในช่วงเดือนที่ผ่านมา พยายามจะใช้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” เป็นที่ระบายอารมณ์กันจ้าละหวั่นเพื่อหา “แพะ” โดยลืมไปว่าสื่อที่ทำน้าที่ “หมาเฝ้าบ้าน” นั้น ไม่ได้พบกันง่ายๆ..

ที่เห็นเกลื่อนกลาด มีแต่พวกชมชอบ “เศษเนื้อข้างเขียง” กันมากกว่า

เรายังคงต้องทำหน้าที่นี้ต่อไป ไม่ว่าจะมี เสียงหอนของ “บัวใต้น้ำ” ทำนอง “….ข่าวหุ้นจะลงข่าว GL วันไหน บอกล่วงหน้าด้วยนะจะได้ขายก่อน…”  หรือ “…ทำไมไม่ปล่อยให้ก.ล.ต. ทำหน้าที่ มันเรื่องอะไรของสื่อ…” หรือ “…มีอะไรคาใจกันนักหนาหรือ อัดกันทุกวัน…”

ความเคารพในสิทธิของนักลงทุนนั้น…กินความถึง “สิทธิที่จะเจ๊งโดยสมัครใจ” ด้วย…เข้าใจตรงกันนะ

เมื่อวานนี้ GL ได้ส่งหนังสือชี้แจง (ฉบับแก้ไข)…ซึ่งเป็นการแก้ไขครั้งที่ 3 หลังจากมีการส่งหนังสือฉบับแรกเมื่อ 13 มีนาคม 2560  ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.

สาระสำคัญของหนังสือชี้แจงยังคงเกี่ยวกับประเด็นข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีกรณีเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับ ที่ยังคลุมเครือมาตลอดนับตั้งแต่งบการเงินสิ้นงวดปี 2559 ออกมาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์

สามสัปดาห์ ชี้แจงถึง 3 ครั้ง ไม่ใช่เรื่องปกติ ..และยังไม่มีการันตีว่าจะไม่มีการชี้แจงครั้งที่สี่ 

สำหรับส่วนที่มีการแก้ไขครั้งนี้ คือ “การอธิบายการขยายระยะเวลาชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยค้างรับแก่ผู้กู้ข้างต้นแยกเป็นรายกลุ่ม เช่น วันที่ขยาย ระยะเวลาชำระหนี้ จำนวนหนี้ที่ขยายแยกเป็นเงินต้นและดอกเบี้ยค้างรับ เป็นต้น”

โดยมีการแก้ไขในเรื่องของนโยบายหรือขั้นตอนในการเรียกเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้ 2 กลุ่มในประเทศไซปรัสและสิงคโปร์ จำนวน 8 ราย

เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจไขว้เขว…ความเดิมของเรื่องนี้ มาจากหมายเหตุประกอบงบการเงินสิ้นงวดปี 2559 ของผู้ตรวจบัญชีรับอนุญาตเลขทะเบียน 3182 ที่ชื่อ นาย โสภณ เพิ่มศิริวัลลภ สังกัดบริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด งบการเงิน ที่น่าสนใจและมีความผิดปกติว่า อัตราดอกเบี้ยตามสัญญาของเงินให้กู้ยืมจำนวน 3.48 พันล้านบาท (ที่ปล่อยให้กับบริษัทย่อยในสิงคโปร์ Group Lease Holdings Pte., Ltd. หรือ GLH แล้วบริษัทย่อยไปคิดดอกเบี้ยอีกต่อจากลูกหนี้ 2 กลุ่ม ซึ่งระบุว่ามีถิ่นฐานอยู่ในสิงคโปร์ และไซปรัส) มีอัตราสูงถึง ร้อยละ 14.5 ถึง  25 ต่อปี ทำให้ปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยรับในระหว่างปีจากลูกหนี้กลุ่มเหล่านี้มีจำนวน 485 ล้านบาท (เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับประมาณ  ร้อยละ 17 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 16  ของรายได้รวมทั้งปีของบริษัท) โดยที่ผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่ม เป็นผู้ถือหุ้นใน GL ด้วยและได้นำหลักทรัพย์ส่วนหนึ่งที่เป็นหุ้นของบริษัทฯมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ยืมจากบริษัทย่อยดังกล่าว

คำชี้แจงที่มีตัวเลขเปลี่ยนไปตลอด ทำให้เห็นความจริงที่ถูกปกปิดเอาไว้ภายในกิจการ และไม่เคยถูกเปิดมาก่อน แม้กระทั่งในข้อมูลและบทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ขาเชียร์สำนักต่างๆ ชนิด “อ้าซ่า”….มากขึ้นเรื่อยๆ 

แถมยังทำให้เกิดข้อสังเกตเกี่ยวกับความหมายของคำว่า ดอกเบี้ยค้างรับ หรือ accrued interest receivable …ซึ่งหมายถึงรายได้จากดอกเบี้ยรับที่แจ้งบันทึกบัญชีไว้แล้ว แต่ยังไม่ถึงกำหนดนัดชำระตามเงื่อนเวลา

ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าสิงคโปร์ ระบุว่า ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560  มียอดดอกเบี้ยค้างรับ 2,201,134  ดอลลาร์สหรัฐ จากวงเงินกู้รวม 56,346,950 ดอลลาร์สหรัฐ บริษัทฯอ้างว่า มีหลักประกันมูลค่ารวม 140,043,405 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าหักหุ้นสามัญของ GL จะมีมูลค่าหลักประกันเพียงแค่ 30,101,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนในกลุ่มลูกค้าไซปรัส มีข้อมูลระบุว่า ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 มียอดดอกเบี้ยค้างรับ 2,201,134 ดอลลาร์สหรัฐ จากวงเงินกู้รวม 41,779,071 ดอลลาร์สหรัฐ ที่บริษัทอ้างว่า มีหลักประกันมูลค่ารวม 43,149,551 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าหักหุ้นสามัญของ GL จะมีมูลค่าหลักประกันเพียงแค่ 23,698,202 ดอลลาร์สหรัฐ

คำถามที่ GL ยังค้างคาต่อไปคือ ตัวเลขที่เคลื่อนไปมาเช่นนี้ ผู้สอบบัญชีจะมีความเห็นอย่างไร สำหรับงบการเงินสิ้นงวดปี 2559 และไตรมาสแรกปี 2560

ถึงเวลานั้นก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าธุรกรรมของ GL จะเข้าข่าย “อัฐยายซื้อขนมยาย” หรือไม่

อิ อิ อิ

 

Back to top button