สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 มี.ค.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559 ที่ขยายตัวได้ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,728.49 จุด เพิ่มขึ้น 69.17 จุด หรือ +0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,368.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.93 จุด หรือ +0.29% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,914.34 จุด เพิ่มขึ้น 16.80 จุด หรือ +0.28%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรได้หนุนหุ้นกลุ่มส่งออกดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 380.46 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2558 หรือสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,089.64 จุด เพิ่มขึ้น 20.60 จุด หรือ +0.41% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,256.43 จุด เพิ่มขึ้น 53.43 จุด หรือ +0.44% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,369.52 จุด ลดลง 4.20 จุด หรือ -0.06%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลง เมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) ด้วยแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของค่าเงินสกุลปอนด์ ภายหลังจากรัฐบาลอังกฤษได้ประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน เพื่อเริ่มต้นกระบวนการเจรจาแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างเป็นทางการ

ดัชนี FTSE 100  ลดลง 4.20 จุด หรือ -0.06% ปิดที่ 7,369.52 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงคูเวต ได้ออกมาสนับสนุนให้มีการขยายการลดกำลังการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 50.35 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 52.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2559 ของสหรัฐ ซึ่งมีการขยายตัวได้ดีกว่าการคาดการณ์นั้น ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,248.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 4.6 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 18.206 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ขยับลง 60 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 955.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 797.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) ด้วยแรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559 ของสหรัฐ ที่ขยายตัวได้ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 111.58 เยน จากระดับ 111.10 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0004 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9972 ฟรังก์สวิส

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0685 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0753 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2483 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2421 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7655 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7671 ดอลลาร์

Back to top button