TASCOลุ้นกำไรหลักปี 58-59 ทำนิวไฮแนะซื้อผู้นำสาธารณูปโภคระดับอาเซียน

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (16 เม.ย.58) ว่าบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง และอุปสงค์ความต้องการยางมะตอยที่เติบโตสูงในไทย รวมทั้งตลาดในภูมิภาคแถบนี้ด้วย การที่ราคาน้ำมันปรับลงทำให้ TASCO ได้รับประโยชน์ในเรื่องอัตรากำไร (product to feed margin) ที่สูงขึ้น แม้ว่าสหสัมพันธ์ (correlation) ของราคายางมะตอยกับราคาน้ำมันจะไม่ได้สมบูรณ์เต็มที่ก็ตาม


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (16 เม.ย.58) ว่าบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน)  หรือ TASCO ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง และอุปสงค์ความต้องการยางมะตอยที่เติบโตสูงในไทย รวมทั้งตลาดในภูมิภาคแถบนี้ด้วย การที่ราคาน้ำมันปรับลงทำให้ TASCO ได้รับประโยชน์ในเรื่องอัตรากำไร (product to feed margin) ที่สูงขึ้น แม้ว่าสหสัมพันธ์ (correlation) ของราคายางมะตอยกับราคาน้ำมันจะไม่ได้สมบูรณ์เต็มที่ก็ตาม

โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 6.5% เทียบกับปีก่อนที่ 4.4% ส่วนด้านอุปสงค์นั้นได้รับแรงกระตุ้นจากงบประมาณภาครัฐที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติถึง 40 พันล้านบาท ในการสร้างถนน หนทาง รวมทั้งการซ่อมบำรุงโครงการถนนเดิมด้วย ทั้งนี้บริษัทมีส่วนครองตลาดยางมะตอยในประเทศสูงสุดที่ 45% อีกทั้งรัฐบาลของประเทศในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนต่างก็เพิ่มงบประมาณเกี่ยวกับพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคเกี่ยวกับถนน ทั้งนี้รายได้หลัก TASCO มาจากการส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 80%

แรงกระตุ้นราคาหุ้นในระยะกลาง เรามองถึงการร่วมมือของ TASCO กับ SK Energy ซึ่งเป็นผู้ประกอบการปิโตรเลียมรายใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ข้อดีของการร่วมมือคือ การประหยัดค่าขนส่ง มีการสว็อปลูกค้ากันได้ นั่นคือ ลูกค้าอยู่ใกล้ใคร บริษัทนั้นจะเป็นผู้จัดส่งให้ เป้าหมายคือประหยัดได้ถึง 25 เหรียญสหรัฐต่อตัน ดังนั้นกลยุทธ์นี้คาดว่าจะทำให้ TASCO เติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวสำหรับตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ผู้ประกอบการโรงกลั่นรายใหญ่ส่วนมากอยู่ในช่วงการปรับปรุงกระบวนการกลั่นให้ดีขึ้น ทั้งในไทยและต่างประเทศ จึงทำให้อุปทานในตลาดตึงตัวมากขึ้นไปอีก นั่นคือ บรรดาโรงกลั่นต่างต้องการผลักดันให้ผลผลิตหลักต้นน้ำให้ออกมามากๆ แต่ผลิตภัณฑ์พลอยได้ (by-product) อย่างยางมะตอยจะออกมาน้อยลง

เริ่มต้นการวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำ ซื้อ คาดการณ์กำไรหลักปี 58 และ 59 ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยปีนี้มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงถึง 31.4% ด้านราคาพื้นฐานกำหนดไว้ที่ 143.00 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่ 14 เท่า ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 24% ผนวกกับอัตราผลตอบแทนปันผลปี 58 ที่ระดับ 3.1% ขณะที่ราคาหุ้นขณะนี้ซื้อขายที่ P/E ปี 58 เพียง 11.3 เท่า

Back to top button