ตั้งหลักก่อนไหม?

*เดี๊ยนยอมรับว่า อาการแกว่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นแกว่งตัวลงอย่างต่อเนื่อง มันเป็นสถานการณ์ที่บีบคั้นหัวใจของนักลงทุนอย่างร้ายแรง จนพวกจิตอ่อนเกิดอาการไขว้เขว ขายหุ้นผิดจังหวะจะโคนไปหมด “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหลบไปตั้งหลักสักพักหนึ่ง เพราะเมื่อดูตามเนื้อผ้าที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันเป็นอะไรที่พูดยากมากๆ แถมพอถึงเวลาที่ต้องทำจริงๆ กลับทำได้ยากกว่าหลายเท่านะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เดี๊ยนยอมรับว่า อาการแกว่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นแกว่งตัวลงอย่างต่อเนื่อง มันเป็นสถานการณ์ที่บีบคั้นหัวใจของนักลงทุนอย่างร้ายแรง จนพวกจิตอ่อนเกิดอาการไขว้เขว ขายหุ้นผิดจังหวะจะโคนไปหมด “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหลบไปตั้งหลักสักพักหนึ่ง เพราะเมื่อดูตามเนื้อผ้าที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันเป็นอะไรที่พูดยากมากๆ แถมพอถึงเวลาที่ต้องทำจริงๆ กลับทำได้ยากกว่าหลายเท่านะคะ

*ด้วยเหตุนี้อย่าได้กังวลใจอะไรไปเลย เพราะข้อมูลที่ได้รับมาอีกทอดหนึ่ง ก็มีการพูดถึงกรอบลงทุนที่วนไปวนมา ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคนสามารถเข้าไปเก็บหุ้นได้ในจังหวะไหน? หากช้อนหุ้นได้ในราคาต่ำๆ ก็คงรู้สึกแฮปปี้เอ็นจอย… หากเข้าไปเก็บหุ้นในราคาสูง ก็คงต้องลุ้นจนตัวโก่ง “โมนิก้า” ถึงต้องการให้เหล่านักเล่นเคลียร์หน้าเสื่อให้เรียบร้อยตั้งแต่ตอนนี้เจ้าค่ะ

*ประกอบกับสัปดาห์นี้ยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ๆ จึงไม่มีความจำเป็นต้องกอดหุ้นไว้ในพอร์ตเยอะๆ เพราะไม่รู้ว่า ตัวแปรที่จะทำให้นักเล่นเกิดความฮึกเฮิมมีอะไรบ้าง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับยึดนโยบาย “เข้าเร็ว ออกเร็ว” เพื่อความคล่องตัวในการเล่นหุ้นช่วงตลาดผันผวน บวกกับข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นในจังหวะนี้มีแต่เรื่องราวชวนระทึกขวัญ จึงต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างตั้งแต่เนิ่นๆ  พะยะค่ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้น SQ จนสุดท้ายหุ้นขึ้นมาปิดที่ 5.85 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่า 270 ล้านบาท ทั้งที่ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ถูกเทขายจนลงมานอนกลิ้งอยู่ที่ 5.60 บาท  “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องอ่านเกมให้ขาดก่อนเข้าลงทุน เพราะจังหวะของการลงทุนเที่ยวนี้เปลี่ยนเร็วเหลือเกิน..บางวันขึ้นแรง บางวันลงแรง บางวันนิ่งๆ จำได้ไหมจ๊ะ

*ส่วนในรายของ SMIT ทะยานขึ้นมาปิดที่ 6.15                บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 143 ล้านบาท ล้วนเป็นช็อตที่เหล่านักเล่นเชื่อกันว่า กำไรปี 60 จะออกมาเลิศสะแมนแตน จึงมีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นจนทำ new high เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนเครื่องกล และเมื่อดูจากแฟนคลับเจ้าประจำที่ยังหนาแน่น หุ้นมีโอกาสไปอีกค่อนข้างสูง แต่ทันทีที่เหลือบดูค่า P/E ปาเข้าไป 15 เท่า “โมนิก้า” คิดว่า คงต้องลุยกันต่อมั้ง!

*บทเรียนเรื่องดังกล่าวดูได้จากราคาหุ้น SPRC ทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบก่อนหน้านี้ที่ระดับ 14 บาทได้ไม่ทันไร ต่อจากนั้นมีแรงเทขายถล่มออกมาไม่เลี้ยง จนหุ้นเซถลาลงมาที่ฐานเดิมบริเวณ 12 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นไปปิดที่ 13.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 330 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการลดอุณภูมิของหุ้นไม่ให้ฮีตจนเกินไป ซึ่งจะทำให้การขึ้นเที่ยวนี้สนุกตื่นเต้นยิ่งขึ้นค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับการไต่ระดับของหุ้น TISCO อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งได้แรงซัพพอร์ตมาจากผลการดำเนินงานที่เข้าตากรรมการ หุ้นถึงไต่เพดานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายมาจบที่ราคา 76.25 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.40%  ด้วยมูลค่า 450 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่คนเล่นต้องผ่องหุ้นออกไปบางส่วนในช่วงที่หุ้นถีบตัวขึ้น เพราะไซเคิลของหุ้นเป็นแบบขึ้นแรงแล้วพักนะซี

*ส่วนรายที่ขึ้นแรงแล้วทุบอย่าง BEM  มันเป็นจังหวะที่แฟนคลับต้องเล่นเกมเร็ว เหตุผลของการขึ้นยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัวเล่นไปเรื่อยๆ ไม่มีเรื่องปัจจัยพื้นฐานเข้ามาสนับสนุนสักเท่าไหร่? “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.20 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่า 196 ล้านบาท  มันเป็นภาพที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นหุ้นวิ่งขึ้นไปถึง 7.60 บาท ต่อจากนั้นหุ้นลงมายืน 7 บาทไงล่ะค่ะ

* ไหนๆ พูดถึงหุ้นที่มีแพทเทิร์นเดิมๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึง AU เพื่อย้ำถึงกรอบการวิ่งของหุ้นยังอยู่ที่ระดับ 10-11 บาทเหมือนเดิม บวกกับตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนก็ยังอยู่ในทรงนี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ที่เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 10.60 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่า 125 ล้านบาท เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มันได้แรงหนุนจากพวก “คิดเร็ว ทำเร็ว” นะซี

*สำหรับรายที่พยายามฉีกกฎอย่าง KOOL พอถึงจุดหนึ่งของการลงทุนที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” ก็เห็นแรงเทขายทยอยออกมาเป็นระลอก ส่งผลให้หุ้นอ่อนตัวจากระดับ 9 บาทอย่างช้าๆ ลงมายืนบริเวณ 4.30 บาท ก่อนจะเด้งขึ้นมาที่ 4.32 บาท บวกไป 0.04  บาท ด้วยมูลค่า 52 ล้านบาท มันเป็นภาพที่ย้ำกับนักเล่นสั้นว่า เมื่อโอกาสทำกำไรรออยู่เบื้องหน้า ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรีรออะไรทั้งสิ้นเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีประเด็นเยอะแยะแล้ว “โมนิก้า” ขอเจียดเวลาให้กับหุ้นสุดรักอย่าง FN เพื่อฉายภาพการขยายตัวในช่วงที่ผ่านมาให้แฟนคลับได้รู้ว่า ทุกอย่างน่าจะไปได้ดีเมื่อดูจากแผนงานที่พูดไว้ตั้งแต่ต้นปี 60 เดี๊ยนจึงขอเดาเล่นๆ อย่างไม่เป็นทางการว่า ตัวเลขกำไรน่าจะไปโป่งในช่วงครึ่งปีหลัง และสัปดาห์นี้คงได้เห็นหุ้นขึ้นไปยืนเหนือ 8 บาทอีกครั้ง ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 7.55 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่า 118 ล้านบาท มันน่าสนจริงๆ นะตัวเอง!

Back to top button