KKPกำไรสุทธิ1Q58 ต่ำกว่าคาดแต่แนะนำถือเพื่อรอรับเงินปันผล

บล. กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) ว่า ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP แนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท/หุ้นกำไรงวด ไตรมาส1/58 ที่ 664 ล้านบาท (-8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +43%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ต่ำกว่าคาด 9.3% เนื่องจากสำรองหนี้ฯ สูงกว่าคาด สาระสำคัญของผลการดำเนินงานงวด ไตรมาส1/58 กำไรปรับลดลง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากสำรองหนี้ปรับสูงขึ้นจากการจัดชั้นเชิงคุณภาพของลูกหนี้อสังหาริมทรัพย์


บล. กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) ว่า ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP  แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท/หุ้นกำไรงวด ไตรมาส1/58 ที่ 664 ล้านบาท (-8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +43%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ต่ำกว่าคาด 9.3% เนื่องจากสำรองหนี้ฯ สูงกว่าคาด สาระสำคัญของผลการดำเนินงานงวด ไตรมาส1/58 กำไรปรับลดลง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากสำรองหนี้ปรับสูงขึ้นจากการจัดชั้นเชิงคุณภาพของลูกหนี้อสังหาริมทรัพย์

ขณะที่กำไรปรับเพิ่มขึ้น เทียบไตรมาสก่อนหน้าสาระสำคัญจากสำรองหนี้ฯ ลดลงจากที่ใน ไตรมาส4/57 มีการตั้งสำรองหนี้ฯ ทั่วไปเพิ่มจากระดับปกติ ขณะที่ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ทรงตัวที่ 3.8% ผลบวกจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากช่วยลดผลกระทบจากการอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่ลดลงตามหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น และการปล่อยสินเชื่อบรรษัทที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อธุรกิจ 

สินเชื่อ ไตรมาส1/58 หดตัวต่อเนื่องเป็นการลดลงไตรมาสที่ 4 ติดต่อกันอีก 3.4%เทียบไตรมาสก่อนหน้าส่วนใหญ่จากการปรับลดลงของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (-2.9%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ด้านคุณภาพสินเชื่ออ่อนแอลง หนี้เสียเพิ่มขึ้น 14%เทียบไตรมาสก่อนหน้าเป็น 11.8 พันล้านบาท จากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ และการจัดชั้นเชิงคุณภาพของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ทำให้ NPL ratio ปรับเพิ่มเป็น 6.5% และยังกดดันให้ coverage ratio ลดลงเหลือเพียง 73.9% จาก 80.5% ใน ไตรมาส4/57 

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 58 ลง 11% เหลือ 2.8 พันล้านบาท (+6.8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) จากการปรับสมมติฐานสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น 24% จาก 2.24 พันล้านบาท (1.2% ของสินเชื่อรวม) เป็น 2.8 พันล้านบาท (1.5% ของสินเชื่อรวม) ผลกระทบจากสำรองหนี้ฯ ใน ไตรมาส1/58 ที่สูงกว่าคาด และ coverage ratio ที่ลดลงทำให้ KKP ยังมีแรงกดดันจากการตั้งสำรองหนี้ฯ ระดับสูงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 

แม้ผลการดำเนินงานปี 58 จะกลับมาขยายตัวได้จากการขาดทุนในการขายรถยึดลดลง แต่ผลกระทบจากสินเชื่อที่ยังคงชะลอตัว และหนี้เสียเพิ่มขึ้นกดดันการตั้งสำรองหนี้ฯ ระดับสูงเป็นปัจจัยกดดัน ROE ทรงตัวระดับต่ำ เราคงคำแนะนำเพียง “ถือ” รับเงินปันผล โดย KKP ประกาศจ่ายเงินปันผลในช่วงครึ่งหลังปี57 เพิ่มอีก 1.35 บาท (XD 29 เม.ย. และจ่ายเงิน  22 พ.ค.) รวมเป็นจ่าย 1.85 บาท/หุ้นในปี 57 และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 1.85 บาท ในปี 58 อย่างไรก็ดี เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานจาก 44.50 บาท เหลือ 40.50 บาท ล้อกับการปรับประมาณการกำไรที่ลดลง อิงจาก Prospective P/BV ที่ 0.9 เท่า (ROE 8%, Ke 9.7%)

Back to top button