IVL กำไรสดใส

IVL รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 60 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย เติบโตสดใสกว่าเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน


คุณค่าบริษัท

 

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 60 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย เติบโตสดใสกว่าเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 71,853.70 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 60,785.09 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4,426.47 ล้านบาท หรือ 0.87 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,104.46 ล้านบาท

ปัจจัยที่ทำให้กำไรหลักขยายตัว ได้แก่ (1) ปริมาณขายที่สูงขึ้น  (2) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ขยายตัว (3) ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในโครงการร่วมทุน (เทียบกับส่วนแบ่งขาดทุนในไตรมาส 1/59 และ 4/60) และ (4) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ต่ำลง

ทั้งนี้ปริมาณขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 24% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 2.2 ล้านตัน เป็นผลจากการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในปี 2559 (แต่ปริมาณขายลดลง 3% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน PET ในประเทศสหรัฐตามแผน) ในขณะที่ EBITDA หลักต่อตันเพิ่มขึ้น 28% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 11% จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐ หนุนโดยส่วนต่างราคา EOEG (สหรัฐอเมริกา), PTA (เอเชีย), PET (เอเชีย) และ HVA ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงมาอยู่ที่ 8.0% ในไตรมาส 1/60 จาก 8.4% ทั้งในไตรมาส 1/59 และไตรมาส 4/59

ส่วนแนวโน้มกำไรหลักของ IVL ในไตรมาส 2/60 นักวิเคราะห์มองว่า คาดจะเติบโตต่อเนื่องทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน หนุนโดยปริมาณการขาย PET ที่มากขึ้นและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ขยายตัวขึ้น ปริมาณการขายในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะขยายตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน หนุนโดยสินทรัพย์ซึ่งซื้อกิจการมาในปีที่แล้ว (ได้เริ่มรับรู้เต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 3/59)

อีกทั้งเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุปสงค์ต่อเม็ดพลาสติก PET ทั้งนี้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โดยรวมคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนเช่นกัน หนุนโดยส่วนต่างราคา PET, PTA และ HVA ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้กำไรจากธุรกิจ PET, PTA และ HVA ที่สูงขึ้นคาดว่าจะสามารถกลบผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน EOEG ตามแผนในระหว่างไตรมาสได้

ดังนั้น นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 43 บาทต่อหุ้น

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท อินโดรามา รีซอสเซส จำกัด 3,066,038,376 หุ้น 63.69%
  2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 274,696,837 หุ้น 5.71%
  3. ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 230,180,944 หุ้น 4.78%
  4. CANOPUS INTERNATIONAL LIMITED 130,000,000 หุ้น 2.70%
  5. GIC PRIVATE LIMITED 52,413,400 หุ้น 1.09%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายศรี ปรากาซ โลเฮีย ประธานกรรมการบริษัท
  2. นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ
  3. นายอาลก โลเฮีย รองประธานกรรมการบริษัท
  4. นายระเฑียร ศรีมงคล รองประธานกรรมการ
  5. นายระเฑียร ศรีมงคล กรรมการอิสระ

Back to top button