SET รีบาวด์ เก็บ 14 หุ้นเทรนด์ดี

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ไซด์เวย์ และมีโอกาสรีบาวด์ได้ในทางเทคนิค หลังดัชนีปรับตัวลง 5 วันทำการติดต่อกัน


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.57 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ไซด์เวย์ และมีโอกาสรีบาวด์ได้ในทางเทคนิค หลังดัชนีปรับตัวลง 5 วันทำการติดต่อกัน หุ้นเด่นเลือก WORK-BEAUTY-PTTGC-SGP-EA-MTLS-HANA-EA-BPP-MTLS-TISCO-BCPG-WORK และ GFPT

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (15 พ.ค.) คาดว่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยมีโอกาสรีบาวด์ทางเทคนิคหลังจากดัชนีปรับตัวลงไป 5 วันทำการติดต่อกัน อีกทั้งค่าเงินบาทและราคาน้ำมันเริ่มแกว่งตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ต้องติดตามสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจแห่งชาติ (GDP) งวดไตรมาส 1/60 ของไทยในวันนี้ ตลาดฯ คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 4/59 โดยฝ่ายวิจัยคาดการณ์อัตราเติบโตที่ระดับ 3.2% นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการทบทวนหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี MSCI รอบนี้คาดว่าจะมีหุ้นไทยเข้าคำนวณด้วย อาจจะช่วยกระตุ้นแรงซื้อได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อยเฉลี่ย 0.2 – 0.4% โดยให้เกาะติดการตอบสนองของชาติมหาอำนาจหลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/60 ในช่วงสุดท้าย โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,540 – 1,535 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,550 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (15 พ.ค.) อาจมี Technical rebound ระยะสั้นไปที่ 1,550 +/- จุด หลัง SET ปรับลดลงไปปิด gap ทางเทคนิคที่ 1,545 จุดแล้วในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน แต่ด้วย 1) Valuation ของ SET ที่ยัง “สูง” 2) ผิดหวังกำไรบริษัทจดทะเบียน 1Q17 ส่วนใหญ่กำไรออกมาต่ำกว่าคาด และเป็นความเสี่ยง Consensus ปรับประมาณการกำไร SET ลง 3) เศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้า ขณะที่ GDP 1Q17 ที่ประกาศเช้านี้คาดเติบโต 3%+ แต่เป็นเพียง lagging indicator เท่านั้น และ 4) กระแสเงินทุนจะผันผวนมากขึ้น ก่อนการขึ้นดอกเบี้ย Fed เดือน มิ.ย….การ Rebound เป็นโอกาสในการ Trading หรือ “ลดพอร์ต”  ทำอะไรดี: การ Rebound ของ SET ระยะสั้น ไม่ทำให้ความเสียง “พักฐาน” ระยะสัปดาห์หมดไป ควร “จำกัด” พอร์ต และ “Selective”

1) “ซื้อ” Earnings play : WORK (กำไร 1Q17 ดีกว่าคาด และจะดีต่อใน 2Q17 จากการขึ้นค่าโฆษณา)  BEAUTY PTTGC (ส่วนต่างราคา LDPE LLDPE กับวัตถุดิบยังสูง) SGP (รายได้ต่างประเทศหนุนการเติบโตกำไรแกร่งใน 1Q17 และจะเริ่มรับรู้กำไรธุรกิจไฟฟ้ากลางปีนี้) และ 2) “ซื้อ” หุ้นพื้นฐานดี และคาดว่าจะถูกเพิ่มใน SET50 รอบนี้ EA  MTLS

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (15 พ.ค.) คาด SET Index จะยังเคลื่อนไหวผันผวน  แม้คาดแรงขายของนักลงทุนสถาบันจะลดลงเนื่องจากขายปรับพอร์ตสะท้อนผลประกอบการ 1Q17 ไปบ้างแล้ว แต่ความไม่แน่นอนของ Fund Flow ต่างชาติ ซึ่งขายสุทธิในตลาด TFEX สูงถึง 38,905 สัญญาในช่วง 2 วันที่ผ่านมาจะทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูท่าทีของต่างชาติในตลาดหุ้นว่าจะเทขายเหมือนในตลาด TFEX หรือไม่ ส่วนวันนี้ต้องติดตามการประกาศ GDP ไตรมาส 1/17 ของไทย ตลาดส่วนใหญ่คาดว่า GDP จะขยายตัว 3%-3.2% หากตัวเลขออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ จะช่วยหนุน Sentiment การลงทุนกลับมาเป็นบวก ด้วยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เรายังแนะนำนักลงทุน รอซื้อเมื่ออ่อนตัวหรือ ใช้กลยุทธ์ ขึ้นขาย ลงซื้อ ไปก่อน โดยยังเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว  อาทิ SCB รับผลบวกดอกเบี้ยขาขึ้น, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA) ได้ผลบวกยอดขาย Semiconductor ปรับตัวขึ้นทำ New high และหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่ SET50 (EA BPP MTLS TISCO) และ SET 100 (BCPG WORK GFPT)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (15 พ.ค.) คาดดัชนี SET ยังในแนวโน้มปรับฐานลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,530 จุด จึงให้น้ำหนักเพียงเก็งกำไรระยะสั้นด้วยเงินลงทุนส่วนน้อย เพื่อรอประเมินผลการจากทิศทางราคาน้ำมันหลังการประชุมโอเปกและการประชุม FOMC ในเดือน มิ.ย. นี้ แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น EA  กำไรสุทธิ Q1/60 + 37 % (YoY) และยังได้แรงหนุนจากโรงไฟฟ้าวินด์ฟาร์มรวมถึงธุรกิจไบโอดีเซลที่รัฐปรับส่วนผสมเพิ่มขึ้นเป็น 7 %

Back to top button