BBLทุ่มงบ 2.5 พันลบ.หนุนกลุ่มดีสโตนขยายฐานการผลิตยางรถยนต์ส่วนบุคคล

นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินจำนวนกว่า 2.5 พันล้านบาทให้แก่ กลุ่มบริษัท ดีสโตน ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทและแผนการดำเนินธุรกิจที่มีทิศทางชัดเจน ทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้กระจายไปสู่ทุกวงการทั้งภาคการเกษตร ภาคแรงงาน ภาคอุตสาหกรรม นำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับประเทศ ด้วยศักยภาพทางการตลาดของกลุ่มบริษัท ดีสโตน และแนวโน้มอุตสาหกรรมการผลิตยางรถยนต์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารเชื่อมั่นว่ากลุ่มบริษัท ดีสโตน จะสามารถนำเงินที่ได้รับไปใช้ให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายการขยายธุรกิจที่แข็งแกร่ง การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน


นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินจำนวนกว่า 2.5 พันล้านบาทให้แก่ กลุ่มบริษัท ดีสโตน ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทและแผนการดำเนินธุรกิจที่มีทิศทางชัดเจน ทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้กระจายไปสู่ทุกวงการทั้งภาคการเกษตร ภาคแรงงาน ภาคอุตสาหกรรม นำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับประเทศ ด้วยศักยภาพทางการตลาดของกลุ่มบริษัท ดีสโตน และแนวโน้มอุตสาหกรรมการผลิตยางรถยนต์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารเชื่อมั่นว่ากลุ่มบริษัท ดีสโตน จะสามารถนำเงินที่ได้รับไปใช้ให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายการขยายธุรกิจที่แข็งแกร่ง การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน

นายสุวิทย์ วงศาริยวานิช ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดีสโตน กล่าวว่า ภายในปี 2558 บริษัทได้ปรับแผนกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก ในการขยายฐานกำลังการผลิตยางประเภทเรเดียล (Radial) เพื่อรถยนต์ส่วนบุคคลให้ได้จำนวนมากกว่า 10,000,000 เส้นต่อปี โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท ซึ่งได้ลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6,500ล้านบาท และเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท สำหรับใช้ขยายโรงงานในเฟสที่ 3 ที่เป็นส่วนของบริษัท สวิซซ์-วัน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 4 ของกลุ่มบริษัท ดีสโตน ให้สามารถขยายกำลังการผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่มียอดสั่งซื้อเข้ามาแล้วในปัจจุบัน โดยเป็นการผลิตเพื่อส่งออกไปมากกว่า115 ประเทศทั่วโลก จำนวนมากกว่า 80% ของสินค้าทั้งหมด

ปัจจุบันกลุ่มบริษัท ดีสโตน ได้มีการจัดตั้งโรงงานทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท ดีสโตน จำกัด บริษัท ดีรับเบอร์ จำกัด บริษัท ดีสโตน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท สยามทรัค เรเดียล จำกัด และบริษัท สวิซซ์-วัน คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวนเจ้าหน้าที่มากกว่า 10,000 คน มีกำลังการผลิต 7,000,000 เส้นต่อปี ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะสามารถทำให้เพิ่มกำลังการผลิตได้ 10,000,000 เส้นต่อปี

Back to top button