MALEE เทรดพาร์ใหม่วันนี้! แนะซื้อชูธุรกิจแกร่งจากตลาดตปท.

MALEE เทรดพาร์ใหม่วันนี้! แนะซื้อชูธุรกิจแกร่งจากตลาดตปท.


บล.ดีบีเอสฯ  ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(16 พ.ค.) ว่า มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดน้ำผลไม้บรรจุกล่อง โดยถือเป็นลำดับ 2 ในตลาดน้ำผลไม้พรีเมี่ยมบรรจุกล่อง UHT ด้วยส่วนครองตลาด 21% และเป็นลำดับหนึ่งในตลาดน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง ด้วยส่วนครองตลาด 42% จุดแข็งคือ แบรนด์เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งลูกค้าในและต่างประเทศมากว่า 40 ปี ปัจจุบันส่งออกไป 34 ประเทศ และมีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 39% เทียบกับยอดขายทั้งหมด

คาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรหลักสูงคือปี 60 นี้เป็น 23% และปี 61 เติบโตต่อเนื่องอีก 27% แรงหนุนนำมาจากอุปสงค์จากต่างประเทศที่สูง นำมาซึ่งยอดขายที่เติบโตดีในอัตรา 18% ทั้งปีนี้และปีหน้า รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้นก็ปรับตัวดีขึ้นคาดว่าเป็น 32.7% ในปี 60 และเป็น 33.2% ในปี 61 จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น ควบคุมต้นทุนการผลิตให้ดีขึ้น มีการใช้เครื่องจักรใหม่ทดแทนของเดิม ก็จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 10% สามารถตอบสนองต่ออุปสงค์ได้อย่างรวดเร็วขึ้นในอนาคต

ล่าสุดตลาดฯประกาศให้วันที่ 16 พ.ค.60 มีการเริ่มใช้พาร์ใหม่ที่ 0.50 บาท จากปัจจุบัน 1.00 บาท จะยังผลให้ราคาหุ้นปรับลงกึ่งหนึ่ง และจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเท่าตัว เป็นการเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้น

เริ่มต้นทำการวิเคราะห์ MALEE ครั้งแรกด้วยคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 117.00 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 14% ประเมินด้วย P/E ปี 60 ที่ 25 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับกลุ่ม แต่เราเชื่อว่าเป็นระดับที่มีความเหมาะสม เนื่องจากคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรของบริษัท CAGR ในรอบ 3 ปี คือ ระหว่างปี 59-62 ที่ 25% และมีระดับอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่สูง คาดว่าปลายปีนี้เป็น 39.7% ราคาหุ้นขณะนี้ถือว่ายังไม่แพง P/E ปี 60 เป็น 22 เท่า ซึ่งเทียบเท่ากับ PEG ที่ 0.9 เท่า

ด้านจุดอ่อนคือ อุตสาหกรรมน้ำผลไม้มีอุปสรรคจากคู่แข่งรายใหม่ที่เข้ามาใหม่ต่ำ เพราะไม่ได้เป็นธุรกิจที่มีการใช้เงินลงทุนสูงมาก (capital intensive) ด้านสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงคือ ราคาวัตถุดิบคือ ผลไม้มีความผันผวนสูง ตามสภาพภูมิอากาศ และภัยธรรมชาติ รวมทั้งการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม

Back to top button