JMT ผุดศูนย์ประนอมหนี้ช่วยเหลือลูกหนี้ 3 ล้านราย

JMT ผุดศูนย์ประนอมหนี้ช่วยเหลือลูกหนี้ 3 ล้านราย ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ลูกหนี้ชำระหนี้เพิ่มเป็น 3 แสนราย/ปี


นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า บริษัทจะจัดตั้งศูนย์ประนีประนอมหนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ของบริษัทที่มีอยู่กว่า 3 ล้านรายในการลดภาระค่าใช้จ่ายและกลับคืนเข้าสู่ระบบได้ในที่สุด ผ่านจุดแข็งสำคัญคือความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ซึ่งบริษัทเดินหน้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งแบงก์ และ นอนแบงก์ จึงได้รับความไว้วางใจ และมีลูกหนี้บางรายที่เกี่ยวพันกันอยู่แล้ว

นอกจากนี้ การพัฒนาระบบการจัดเก็บหนี้ที่มีมาตรฐาน การกระจายข้อมูลผ่าน Call Center ซึ่งมีกว่า 2 พันคน  และกลุ่มเครือข่ายที่ลงพื้นที่เพื่อให้คำปรึกษาลูกค้าทั่วประเทศ ทำให้ JMT สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกหนี้รายย่อยได้อย่างครบถ้วนที่สุด

สำหรับลูกหนี้ที่สนใจปรับโครงสร้างกับ JMT จะรู้ผลการอนุมัติภายใน 24 ชั่วโมง ลดภาระค่าใช้จ่ายด้วยส่วนลดแบบปิดบัญชีสูงสุดถึง 50%  รวมถึง การผ่อนชำระเป็นรายงวด และการขยายเวลาการชำระเงินให้ยาวขึ้น โดยจะดูคุณสมบัติและความสามารถในการผ่อนชำระของลูกหนี้ประกอบการพิจารณาด้วย

อย่างไรก็ตาม จากฐานข้อมูลลูกหนี้รายย่อยของ JMT ซึ่งมีอยู่สูงกว่า 3 ล้านราย รวมถึงประสบการณ์ในธุรกิจนี้มาอย่างยาวนาน  ทำให้มีความเข้าใจและเข้าถึงความรู้สึกของลูกหนี้เป็นอย่างดี มั่นใจจากโครงการดังกล่าวของบริษัท จะได้รับการตอบรับมีลูกหนี้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจำนวนมาก  ตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้ มีลูกหนี้ชำระหนี้เพิ่มเป็น 300,000 รายต่อปี

“เราเห็นโอกาสในการช่วยเหลือลูกหนี้บางส่วนที่เป็นทั้งลูกหนี้ของ JMT และเป็นหนี้ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆ ด้วย ซึ่งหากกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ให้ความสนใจ เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้บางรายที่เกี่ยวพันกัน JMT ก็พร้อมลงนามข้อตกลงทำ MOU ร่วมกันได้ ด้วยเป้าหมายลดภาระค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าและกลับคืนเข้าสู่ระบบ เป็นศูนย์กลางในการประนอมหนี้ให้กับธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ และเป็นส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน”นายปิยะ กล่าว

ทั้งนี้ JMT ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน มีพอร์ตบริหารหนี้แตะ 1.15 แสนล้านบาทแล้ว จากเป้าหมายปีนี้ที่จะซื้อหนี้เข้ามาบริหารไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท จึงมั่นใจจะสามารถทำได้ตามนั้น พร้อมทั้งดูแลลูกหนี้ในระบบ ให้สามารถชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Back to top button