ไม่สุดซอย (สักที)

*ตลาดหุ้นไทยในช่วงขาดข่าวดี บรรยากาศไม่เป็นใจ นักเล่นออกอาการเกร็ง มองไปทางไหนก็มีแต่คนรอลุ้นทีเด็ดในช่วงต้นไตรมาส 3 มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้การเคาะขวาทำได้ไม่เต็มที ซึ่งส่งผลให้การทะยานขึ้นของดัชนีค่อนข้างขลุกขลักเป็นประจำนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักลงทุนขาประจำรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ส่วนพวกไก่อ่อนอาจไม่ค่อยชอบใจในจังหวะนี้สักเท่าไหร่นะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ตลาดหุ้นไทยในช่วงขาดข่าวดี บรรยากาศไม่เป็นใจ นักเล่นออกอาการเกร็ง มองไปทางไหนก็มีแต่คนรอลุ้นทีเด็ดในช่วงต้นไตรมาส 3 มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้การเคาะขวาทำได้ไม่เต็มที ซึ่งส่งผลให้การทะยานขึ้นของดัชนีค่อนข้างขลุกขลักเป็นประจำนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักลงทุนขาประจำรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ส่วนพวกไก่อ่อนอาจไม่ค่อยชอบใจในจังหวะนี้สักเท่าไหร่นะคะ

*เนื่องจากอารมณ์ค้างมากกว่าปกติ จนทำอะไรไม่ถูกสักทีนั้น มันเป็นแพตเทิร์นปกติที่พบเห็นได้เป็นประจำ ซึ่งทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการเคาะขวา วานนี้ดัชนีถึงยืนปิดได้แค่ระดับ 1,566.15 จุด บวกไป 1.46 จุด ด้วยมูลค่า 3.99 หมื่นล้านบาท เพราะไม่มีใครอยากเข้าไปซื้อหุ้นในช่วงที่ดัชนียกตัวขึ้นมาใกล้กับยอดเดิม “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้เจ้าค่ะ

*ที่สำคัญคือ เวทีแห่งนี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้กับพวกขี้แงมาร้องตีโพยตีพาย แต่เป็นเวทีสำหรับพวกที่ “คิดเร็ว ทำเร็ว” เห็นจังหวะเข้าทำต้องรีบในทันที และเมื่อเห็นท่าไม่ดีก็ต้องรีบถอย “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ที่หุ้นหลายตัวไปไม่สุดซอย พร้อมกับปล่อยให้ลูกหาบค้างเติ่งอยู่บนยอดดอย จึงขอเล่าถึงเหตุการณ์เดิมๆ เพื่อเตือนสติเหล่านักเล่นให้หัดทำตัวเป็นสนต้องลมไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับคนที่เข้ามาไล่ราคาหุ้น DTAC หลังจากคว้าคลื่น 2300 MHz จากทีโอที มันเป็นเพียงแค่การต่อลมหายใจอีกเฮือกหนึ่ง ไม่ได้เป็นการพลิกโฉมตัวธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้การดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 43 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่า 2.13 พันล้านบาท น่าจะเป็นเพียงเด้งรับข่าวแล้วเลิก แถมหุ้นยังมีอาการเปิดสูงปิดต่ำ ก็รู้ได้ทันทีว่า งานเลี้ยงเลิกแล้ว..อิอิอิ

*ส่วนในรายของเจ้าจำปี THAI ออกอาการลิงโลดสุดๆ หลังจากปลดเปลื้องภาระใส่เงินเพิ่มทุนให้กับน้องนก หุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 19.10 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4.95% ด้วยมูลค่า 490 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นแค่การฟื้นตัวระยะสั้นๆ ไม่ได้มีนัยอะไรมากมาย หรือเม้าท์ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการเล่นตามข่าว แถมครั้งก่อนก็จบลงแถว 21 บาท มันเหมาะสำหรับพวกใจกล้าจริงๆ นะคะ

*ทางด้านตัวต้นเรื่องอย่างน้องนก NOK คงดีใจที่ได้กลุ่ม “จุฬางกูร” เข้ามาบริหารจัดการ พร้อมกับเกิดมโนภาพกันยกใหญ่ว่า ของใหม่ต้องดีกว่าเดิม! หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.78 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่า 28 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้คิดกันดีๆ ว่า ตัวแทนที่จะส่งเข้ามาช่วยกอบกู้มีประวัติเป็นอย่างไร? สามารถพากันไปรอดจริงหรือเปล่า? คนเก่าคนแก่เขารู้กันดี..อย่ามาจุ๊หมาน้อยขึ้นดอยนะยะ

*เม้าท์เรื่องอแหลขึ้นมาทีไร “โมนิก้า” มักมีอาการเกร็งไปทุกส่วนของร่างกาย เพราะรู้สึกอยากจะเบิร์ดกะโหลกใครบางคนขึ้นมาในทันที น่าเสียดายที่เดี๊ยนเป็นกุลสตรีไทยเหมือนผ้าพับไว้ จึงทำได้แค่เพียงบอกให้แก๊งญี่ปุ่น GL เตรียมตัวเจ็บรอบใหม่ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะพวกคุณอาจโดนข้อหาอินไซด์ข้อมูลจากสำนักงาน ก.ล.ต. หลังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียดันปากพล่อยพูดชี้นำราคาหุ้น เดี๊ยนเลยขอแสดงความยินดีล่วงหน้าไว้ก่อนเลย บวกกับเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 21.80 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 2.80%  ด้วยมูลค่า 750 ล้านบาท บอกได้ทันทีว่า โอเว่อร์รีแอ๊คนะเนี่ย!

*อีกหนึ่งตัวอย่างที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับจำให้ขึ้นใจคือ BDMS  ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นที่ทำให้แมงเม่าติดหุ้นราคาสูงกันอย่างถ้วนหน้า และเหตุผลที่ทำให้เป็นเช่นนั้นมาจากความคาดหวังที่ค่อนข้างสูง เมื่อนำมาบวกกับหุ้นเทรดบนระดับที่สูงเกินจริง จึงโดนเทขายเป็นเวลายาวนาน ล่าสุดลงมาทำ low ที่ระดับ 18.20 บาท ลบไป 0.20 บาท  ด้วยมูลค่า 925 ล้านบาท สะท้อนว่า ไม่มีใครเอานะจะบอกให้

*ย้อนกลับมาดูที่หุ้นทางเลือกกันบ้างดีกว่า เพราะในเวลานี้มีแต่คนกล่าวถึง ORI  กันอย่างออกนอกหน้าเลยทีเดียว “โมนิก้า” ในฐานะคนชอบแส่ไปทุกเรื่องในตลาดหุ้น ก็เห็นด้วยที่ชมรมคนปากมากจะพูดถึงกันอย่างเมามัน เพราะพัฒนาการของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมายืน 12.90 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่า 144 ล้านบาท และคงทำให้ “เสี่ยนเรศ” กับ “เสี่ยปู่” แฮปปี้น่าดูนะจ๊ะ

*เม้าท์เรื่องสนุกๆ “โมนิก้า” ก็อยากให้หันมาดูการเคาะขวาแบบสุดซอยของ MOONG จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.95 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 29.30%  ด้วยมูลค่า 438 ล้านบาท มันเป็นช็อตของการตามกระแสที่น่าสนใจ แต่งานนี้ห้ามโลภมากเป็นอันขาด เพราะหุ้นมีลักษณะ “มาเร็ว ไปเร็ว” ค่อนข้างชัด จึงต้องวางแผนการลงทุนไว้ล่วงหน้า เพื่อจะได้หาทางหนีทีไล่ได้ทันค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ECF ไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 3.90 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่า 140 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่หุ้นขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง และกำลังจะถูกทดสอบด้วยการเทขาย หากสามารถยืนระยะได้อย่างมั่นคง ย่อมเป็นจุดสตาร์ทที่สองสำหรับการไต่ระดับขึ้นไปสร้างฐานแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม จึงต้องจับตาดูวันนี้ให้ดีไงล่ะค่ะ

Back to top button