อดีตผู้จัดการตลท.“เสรี”ค้านตั้ง CMDF ชี้ความจำเป็น-แผนงาน3ปีไม่ชัดเจน

อดีตผู้จัดการตลท. “เสรี จินตนเสรี” ค้านตั้ง CMDF เผยความจำเป็น-แผนงาน 3 ปียังไม่ชัดเจน


จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ออกเอกสารรับฟังความคิดเห็นเรื่อง แก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เพื่อรองรับการจัดตั้งกองทุนส่งเสริม การพัฒนาตลาดทุน (Capital Market Development Fund (CMDF))

โดยมีข้อเสนอในการปรับปรุงบทบาท ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. โดยแยกหน้าที่ในการส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนออกจาก exchange function  รวมทั้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จ่ายเงินรายปีให้แก่ CMDF ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

ล่าสุด นายเสรี จินตนเสรี อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านแบบสำรวจความคิดเห็นของฝ่ายกำกับตลาด สำนักงานก.ล.ต. โดย นายเสรี ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์ดังกล่าว

พร้อมทั้งให้ความเห็นว่า เหตุผล และความจำเป็นที่ ก.ล.ต. ต้องการแยกหน้าที่ในการส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนออกจาก exchange function นั้น ยังไม่ชัดเจน อีกทั้งไม่มีการระบุว่าจะมีการพัฒนาอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ยังระบุว่า ไม่มีภาพที่ชัดเจนถึงแผนดำเนินงานปีงบประมาณ (แผน 3 ปี) สำหรับการจัดตั้ง CMDF ซึ่งมองว่าในขณะนี้ควรจะมีแนวทางที่ชัดเจนพอสมควร

ขณะที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในปัจจุบันตลท. ไม่มีการพัฒนาหรือส่งเสริมการพัฒนา หรือมีการพัฒนาแต่ยังพัฒนาได้ไม่เพียงพอหรืออย่างไร จึงจะต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ขณะที่การดำเนินงานตามความรับผิดชอบของ CMDF นั้นไม่น่าจะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเป็นจำนวนถึง 8 พันล้านบาท

 

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่ากองทุนดังกล่าวมีคณะกรรมการกองทุนคณะหนึ่ง ประกอบด้วย 1.) ดร.ชัยวัฒน์  วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นประธานกรรมการ 2.) นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังเป็นรองประธานกรรมการ 3.) ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 4.) ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 5.) นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ส่วนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะกรรมการ ก.ล.ต. คัดเลือกและแต่งตั้งจากรายชื่อที่เสนอโดยนิติบุคคลหรือคณะบุคคลอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดทุนและมิใช่คณะกรรมการกองทุนจำนวนไม่เกิน 6 คนเป็นกรรมการและให้ผู้จัดการเป็นเลขานุการ

โดยเป็นที่น่าสังเกตุว่า กองทุนดังกล่าวนั้น แทบจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับบุคลากรของ ตลท.เลย หลังจากพบว่าคณะกรรมการทั้งหมด 11 ท่าน นั้น มาจากฝั่งก.ล.ต.ทั้งหมดถึง 10 ท่าน ขณะที่มีกรรมการเป็นฝั่งของตลท.เพียงแค่ท่านเดียว คือ ดร.ชัยวัฒน์  วิบูลย์สวัสดิ์ ที่นั่งเป็นประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ

Back to top button