เปิดเส้นทางรวยหุ้น “ครูอ้อย” จาก “ดาวรุ่ง”สู่ “ดาวร่วง”

ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องราวของ ฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือ “ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต” เจ้าของคอร์สอบรมการให้กำลังใจคลายปมชีวิต ให้กับนักธุรกิจ ดารานักแสดง และผู้มีชื่อเสียง และเป็นผู้เขียนหนังสือขายดี ระดับ Best Seller ได้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา หลังจากมีคนออกมาแฉพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ได้มีนักลงทุนรายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่า ถูกครูอ้อย ชักชวนให้เข้าไปลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากตนเองประสบความสำเร็จมีกำไรจาดตลาดหุ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ พร้อมรับประกันความเสียหาย โดยอ้างมีข้อมูลวงในจะมีนักลงทุนรายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาซื้อกิจการบริษัทดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาหุ้นด้วย

แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม เมื่อดีลนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ นักลงทุนต่างประเทศถอดใจ และส่งผลกระทบต่อบริษัทมหาศาล และราคาหุ้นดิ่งเหว ทำให้นักลงทุนคนดังกล่าวต้องประสบปัญหาขาดทุนจากการลงทุนกว่า 10 ล้านบาท

ทั้งนี้จากการเข้าไปสำรวจการเข้ามาถือหุ้นใน บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC ของฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือ “ครูอ้อย”ก่อนที่จะมีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 ปี 2557 เชื่อว่าครูอ้อยได้เข้าไปทยอยเก็บหุ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาต่ำสุด ณ ต้นเดือนมิ.ย.57 แถวๆระดับ 3.16 บาท และเมื่อนำหุ้นที่ได้เข้าไปเก็บก่อนที่จะประกาศรายชื่อสัดส่วนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 24 ก.ค.57 ครูอ้อยจะมีมูลค่าลงทุนเพียง 7.90 ล้านบาท

โดยช่วงก่อนหน้าที่จะมีการประกาศรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ABC ราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 24 ก.ค.57 พบว่า ครูอ้อย ขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 3 ด้วยจำนวน 2,500,300 หุ้น หรือ 1.97% และเมื่อนำราคาหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียนที่ระดับ 15.30 บาท มาคำนวณกับจำนวนหุ้นดังกล่าวจะมีมูลค่าลงทุน 38.25 ล้านบาท ซึ่งครูอ้อยก็ยังมีกำไรจากการลงทุน ABC เห็นได้ชัด

นอกจากนี้ก่อนที่หุ้นจะมีการแตกพาร์จาก 1 บาท เป็น 0.10 บาท ในวันที่ 22 ส.ค.58ราคาหุ้นก็ยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนไปแตะจุดสูงสุดระดับ 63.50 บาท และเมื่อนำจำนวนหุ้น 2,500,300 หุ้น  มาคำนวณจะมีมูลค่า 158.77 ล้านบาท

จนกระทั้งหลังการแตกพาร์ครูอ้อยยังคงเก็บหุ้นเข้พอร์ตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากข้อมูลวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 27 พ.ย.57 มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 48,233,900 หุ้น หรือ 1.83% และเมื่อนำมาคำนวณกับราคาหุ้นที่ระดับ 8.20 บาท จะคิดเป็นมูลค่าลงทุน 395.52 ล้านบาท หรือเกือบ 400 ล้านบาท

แม้ว่าจำนวนหุ้นของครูอ้อยจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากข้อมูลวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 27 มี.ค. 58 มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 57,167,200 หุ้น หรือ 2.17% และข้อมูลวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 19 พ.ย.58 มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 118,551,100 หุ้น หรือ 1.50% จนถึงปัจจุบัน และดูเหมือนว่าราคาหุ้น ABC บนกระดานอ่อนตัวลงต่อเนื่อง

ล่าสุดราคาหุ้น ณ วันที่ 20 มิ.ย. 60 อยู่ที่ระดับ 0.20 บาท และเมื่อนำมาคำนวณกับจำนวนหุ้นปัจจุบันที่ถืออยู่ 118,551,100 หุ้น จะมีมูลค่าลงทุนเหลือเพียง 23.71 ล้านบาท

แน่นอนว่าหากเปรียบเทียบมูลค่าการลงทุนของครูอ้อยลงทุนก่อนปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 27 พ.ย.57 ซึ่งมูลค่าลงทุนเกือบ 400 ล้านบาท ได้หดหายเหลือเพียง 23.71 ล้านบาท ตรงนี้ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นสัจธรรมว่า ฐิตินาถ ณ พัทลุง เองก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในด้านการลงทุน ขณะเดียวกันยังได้ชักชวนให้นักลงทุนรายอื่นตกเป็นเหยื่อและประสบปัญหาขาดทุนด้วยเช่นกัน