WHA ยิ้มรับยอดโอนที่ดินนิคมอุตฯ พุ่ง ลุ้นกำไร Q2/60 โตเท่าตัว!

WHA ยิ้มรับยอดโอนนิคมอุตฯ พุ่ง-จ่อบันทึกกำไรพิเศษจากเงินชดเชยประกันภัย ลุ้นกำไร Q2/60 โตก้าวกระโดดกว่า 1 เท่าตัว! ด้าน ผู้บริหารมั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 1.3 หมื่นล้านบาท ลุยเดินหน้าโรดโชว์ตปท.ในช่วงที่เหลือของปี หวังดันสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นเพิ่ม


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA หลังใกล้เข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่า กำไรของ WHA ในช่วงไตรมาส 2/60 มีแนวโน้มเติบโตกว่า 1 เท่าตัว จากยอดโอนนิคมอุตสาหกรรมและมีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากเงินชดเชยประกันภัยจากโรงไฟฟ้าที่ร่วมทุนกับบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW

นอกจากนี้ยังคาดว่า WHA จะได้รับประโยชน์จากนโยบายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (ECC) และการเติบโตของ WHAUP ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 70% จะช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานของ WHA ในปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ราคาหุ้น WHA ปิดตลาดวานนี้ (26 มิ.ย.) อยู่ที่ 3.22 บาท ลบ 0.02 บาท หรือ 0.62% มูลค่าซื้อขาย 242.66 ล้านบาท โดยราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 3.76 บาท อยู่ 16.77%

 

โดยนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสฯ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ WHA ให้ราคาเป้าหมาย 3.54 บาทต่อหุ้น โดยประเมินเบื้องต้นกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 เป็น 771 ล้านบาท เพิ่มก้าวกระโดด 131% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 855% เทียบไตรมาสก่อน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในไตรมาสนี้จะไม่ได้มีการขายสินทรัพย์เข้า REIT แต่มีการโอนนิคมฯมากถึง 510 ไร่ (เฉพาะ Continental 473 ไร่) และมีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากเงินชดเชยประกันภัยจากโรงไฟฟ้าที่ร่วมทุนกับ GLOW ประมาณ 100 ล้านบาท

ขณะที่ยอดขายนิคมฯตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ราว 600 ไร่ ถือว่าทำได้สูงสุดในอุตสาหกรรม และคิดเป็น 43% จากเป้าขายใหม่ปีนี้ที่ 1,400 ไร่ นับได้ว่า WHA จะเป็นผู้รับประโยชน์เต็มที่จากนโยบาย EEC เพราะมีที่ดินอยู่ถึง 9 พันไร่ ดังนั้น คงคำแนะนำซื้อ คาดกำไรสูงในไตรมาส 2/60 จะเป็นแรงกระตุ้นราคาหุ้นได้ดี และถือเป็นหนึ่งในไตรมาสที่ดีสุดในปีนี้

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ WHA ให้ราคาเป้าหมาย 3.76 บาทต่อหุ้น โดยจุดเด่นของบริษัทมาจากที่ดินที่บริษัทถืออยู่ จากการคาดการณ์ในเชิงอนุรักษ์นิยมมูลค่าตลาดสำหรับที่ดินของ WHA ขนาด 8,800 ไร่

นอกจากนี้ราคาหุ้น WHA เมื่อเทียบกับค่า PBV ระยะยาวยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจ ซึ่งเชื่อว่าตลาดยังไม่สะท้อนปัจจัยต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวลดลง การฟื้นตัวของการโอนย้ายที่ดินที่ดีขึ้นในปีนี้ ขณะที่กำไรของ WHAUP ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หรือแนวโน้มอัพไซด์ต่อยอดขายที่ดินและการปล่อยเช่า (และมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) จากนโยบายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของรัฐบาล

สำหรับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมมีการโอนแค่ราว 500 กว่าไร่ ในปีที่ 2559 เทียบกับยอดจองซื้อที่ดินขนาด 834 ไร่ (และ 1,043 ไร่ ในปี 2558) ซึ่งมองว่ายอดการโอนมีโอกาสแตะ 1,100 ไร่ในปี 2560 (ประมาณ 2 เท่าจากปีที่แล้ว) นอกจากนั้นมองการเติบโตของอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หนุนราคาขายปรับตัวสูงขึ้นตาม ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจมีแนวโน้มขยายตัว

ทั้งนี้จากการออก IPO WHA ยังคงเป็นผู้ถือหุ้น 70% ในบริษัท WHA Utilities & Power Plc โดย WHAUP มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้า SPP ในช่วงระหว่างปีนี้ถึงปี 61 ซึ่งจะหนุนกำลังการผลิตบริษัทขึ้น 54% นอกจากนี้โรงไฟฟ้าใหม่ที่เข้ามาจะช่วยหนุนยอดขายไอน้ำและน้ำประปาเพิ่มขึ้นอีกด้วย

โดยการออก IPO ของ WHAUP ทำให้ WHA สามารถนำเงินไปชำระหนี้สินจากการซื้อ HEMRAJ ในปี 2558 โดยบริษัทวางแผนที่จะรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูง ด้วยพันธบัตรมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ หากเป็นเช่นนั้นต้นทุนทางการเงินจะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิขยายตัวมากขึ้น คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในปี 2560 จะอยู่ที่ 3,187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนจากเดิมอยู่ที่ 2,898 ล้านบาท อัพไซด์ต่อประมาณการของเราจะมาจากการที่บริษัทสามารถทำยอดเช่าโกดังตามเป้าที่ตั้งไว้

ด้านโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( จ.ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ระยอง) เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลในการยกระดับพื้นที่เขตเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยที่ดินอุตสาหกรรมส่วนมากรวมทั้งโกดังของ WHA อยู่ในพื้นเขต EEC อยู่แล้ว (มากกว่า 85%) ยิ่งไปกว่านั้น ฐานลูกค้าก็อยู่ในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลส่งเสริมเพื่อการยกระดับเศรษฐกิจในประเทศเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ความสำเร็จของยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 คาดว่าจะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการระยะยาวของและมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ WHA อีกด้วย (เนื่องจากมูลค่าที่ดินใน EEC จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว)

 

ขณะที่ นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินปีนี้ขึ้นเป็น 1,400 ไร่ จากเดิม 1,000 ไร่ และปรับเป้ายอดโอนที่ดินปีนี้เป็น 1,200 ไร่ จากเดิมที่ 1,000 ไร่ สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/60 บริษัทคาดว่าทั้งรายได้และกำไรสุทธิจะสูงกว่าไตรมาส 1/60 ที่มีรายได้ 1,365.13 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 80.78 ล้านบาท

โดยบริษัทเตรียมโอนที่ดินมากกว่า 500 ไร่ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/60 ที่มียอดโอนที่ดินเพียง 15 ไร่เท่านั้น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการที่ภาครัฐเร่งกระตุ้นการลงทุนในโครงการเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มยานยนต์ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มเคมีภัณฑ์ ขณะเดียวกัน ในไตรมาสนี้ยังจะรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน หลังจากเสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 13,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ยังมาจากการขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม 40% และ โลจิสติกส์ 35% ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจไฟฟ้าภายใต้ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAU) ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 70% ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 40% โดยจะมีโรงไฟฟ้าอีก 4 แห่งที่เตรียมขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่เดือน พ.ค.-พ.ย. นี้ กำลังการผลิตรวม 128.8 เมกะวัตต์

ส่วนช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทเตรียมเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ทั้งในญี่ปุ่น สหรัฐ สิงคโปร์ ฮ่องกง และสหภาพยุโรป โดยคาดหวังว่าจะมีสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 25% ตามเป้าหมาย จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% แล้ว

Back to top button