AQเพิ่มทุนฉลุย คนดังตบเท้าซื้อPPพรึ่บ! จับตาเจรจาแบงก์กรุงไทยไร้ปัญหา

AQเพิ่มทุนฉลุย คนดังตบเท้าซื้อPPพรึ่บ! หลังเคาะราคาขายหุ้นเพิ่มทุน PP 15 รายที่ 0.05 บ./หุ้น หวังนำเงินใช้ชำระหนี้-พัฒนาโครงการ จับตาเจรจาแบงก์กรุงไทยไร้ปัญหา หลังเคาะราคาขายหุ้นเพิ่มทุน PP 15 รายที่ 0.05 บ./หุ้น


บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทกำหนดราคาเสนอขายหุ้นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 100,000,000,000 หุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ที่ 0.05 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงกว่าราคายุติธรรมที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด

ดังนั้น ราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัดราคาที่ 0.05 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับราคายุติธรรม 0.04 บาท จึงไม่ถือว่าเป็นการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาต่ำตามประกาศของตลาดหลักทรัพย์ ในเรื่อง หลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีพิจารณาคำขอให้รับหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ.2558 ดังนั้น หุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจึงไม่มีการกำหนดระยะเวลาห้ามขายหุ้น (Silence Period)

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลในวงจำกัด โดยพิจารณาจากนักลงทุนที่แสดงความจำนงในการเข้าลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนในส่วนที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด ที่มีจำนวนหุ้นที่เสนอซื้อค่อนข้างมาก เพื่อให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนจากการเพิ่มทุนในรูปแบบนี้ได้มากที่สุด โดยมีรายละเอียดดังนี้

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่าในรายชื่อ PP ที่เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด 15 ราย นั้น ปรากฏรายชื่อของ นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เป็นอันดับที่ 1 โดยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ AQ ทั้งหมด 4 พันล้านหุ้น 

อีกทั้งปรากฏรายชื่อของ น.ส.ฐานุตรา สื่อวีระชัย ในกลุ่มธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เป็นอันดับที่ 4 โดยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ AQ ทั้งหมด 3.9 พันล้านหุ้น

อย่างไรก็ตามนักลงทุนทั้ง 15 ราย ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัท และจะไม่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานของบริษัทฯ หรือ เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทฯ รวมถึง สิทธิในการออกเสียงของผู้ถือหุ้นดังกล่าวเท่าเทียมกับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามข้อบังคับของบริษัทฯ โดยนักลงทุนทั้ง 15 รายข้างต้นไม่มีความสัมพันธ์กันหรือมีพฤติกรรมที่เข้าลักษณะเป็นการกระทำร่วมกับบุคคลอื่น (Acting in Concert) จึงไม่เข้าข่ายต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ (Tender Offer)

 

สำหรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเพิ่มทุนให้ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงเมื่อผู้ลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 34,140,000,000 หุ้น จะมีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นดังนี้ จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท 12,674,683,535 หุ้น จำนวนหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ 34,140,000,000 หุ้น จำนวนหุ้นรวม 46,814,683,535 หุ้น

ทั้งนี้หากคำนวณราคาตลาดหลังเพิ่มทุนโดยเฉพาะเจาะจงเท่ากับ 0.05 บาท ( หากราคาตลาดก่อนเพิ่มทุนเท่ากับ 0.05 บาท ) Price Dilution 0% และ Control Dilution 72.933% สาเหตุที่ Price Dilution ไม่กระทบต่อผู้ถือหุ้นเดิม เนื่องจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 7-15 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติจัดสรร ไม่สามารถหาได้เนื่องจากหุ้นของบริษัทฯไม่มีการซื้อขาย (SP) ทางบริษัทจึงใช้ราคา 0.05 บาท ซึ่งเป็นราคาประเมินของบริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นราคาหุ้นก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนและเนื่องจากคณะกรรมการบริษัทจัดสรรในราคาเท่ากับราคาตลาดคือ 0.05 บาท ดังนั้น Price Dilution จึงไม่มีผลกระทบ

อนึ่งการที่ AQ ได้รับเงินทุนดังกล่าวก็มีผลประโยชน์ค่อนข้างมากเพียงพอสำหรับการชำระหนี้และอาจสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคตที่จะทำให้บริษัทสามารถที่จะเติบโตและสร้างกำไรกับผู้ถือหุ้นได้ในการออกและเสนอขายสำหรับหุ้นให้แก่บุคคลเฉพาะเจาะจงจำนวน 100,000 ล้านหุ้นบริษัทฯได้จัดสรรในครั้งนี้จำนวน 34,140 ล้านหุ้น คงเหลือหุ้นจากการจัดสรรครั้งนี้ จำนวน 65,860 ล้านหุ้น

 

นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากวงการธนาคารพาณิชย์เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า เบื้องต้นการเจรจาระหว่างธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) หรือ KTB กับบริษัท AQ เกี่ยวกับกรณีที่ดิน 4,300 ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราด (อีกด้านชนถนนมอเตอร์เวย์) ซึ่งถูกนำมาเป็นหลักประกันเงินกู้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทก่อนหน้านี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจา รวมถึงแผนการพัฒนาที่ดินผืนดังกล่าวในอนาคตต่อไป หลังจากมีการหารือร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายอีกครั้งหนึ่งในเร็วๆนี้

ขณะที่แหล่งข่าวรายเดียวกันเปิดเผยว่า หลังจากมีความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการพัฒนาที่ดินผืนข้างต้นแล้ว ทางบริษัทฯเตรียมที่จะมีการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) สืบไป โดยมีจุดประสงส์เพื่อนำเงินจากการระดมทุนดังกล่าวมาใช้ในการพัฒนาพื้นที่เพื่อการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในอนาคต ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นทุกรายของบริษัทฯ

 

Back to top button