IFEC เม็ดแตงโมหมอวิชัย

แฉทุกวันทันเกมหุ้น

ไม่มีใครรู้ว่า หมอวิชัย หรือ นพ.วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการของ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ยังจำกวีของสุนทรภู่ในนิราศภูเขาทองได้ดีแค่ไหน โดยเฉพาะท่อนที่ว่า

“….ปานประหนึ่งศีรษะขาด          ด้วยไร้ญาติ ยากแค้น ถึงแสนเข็ญ

ทั้งโรคซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น          ไม่เล็งเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา…”

ล่าสุด หลังจากเพิ่งถูกวิบากกรรมมาหมาดๆ เพราะถูกนางสาวสุธินันท์ ชาญปรีชา นายทะเบียน ส่วนจดทะเบียนบริษัทมหาชน และธุรกิจพิเศษ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุชัดเจนว่า ได้มีคำสั่งไม่รับการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท คำขอที่ ๑๘๒๖๐๐๕๐๓๐๐๑๒  ของ IFEC เมื่อวันที่ 3พฤษภาคม 2560 และวันที่ 20 มิถุนายน 2560

นายทะเบียนระบุว่า การที่ IFEC ได้กำหนดข้อบังคับของบริษัทเกี่ยวกับการเลือกตั้งกรรมการโดยให้ผู้ถือหุ้นหนึ่งคน มีคะแนนเสียงเท่ากับหนึ่งหุ้นต่อหนึ่งเสียง และผู้ถือหุ้นแต่ละคนนั้นจะต้องใช้คะนนเสียงที่มีอยู่ทั้งหมดเลือกตั้งบุคคลคนเดียว หรือหลายคนเป็นกรรมการก็ได้ แต่จะแบ่งคะแนนเสียงให้แก่ผู้ใดมากน้อยเพียงใดไม่ได้ ดังนั้นบริษัทจึงต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อบังคับ

 ศรรักปักอกดอกแรกเพิ่งผ่านไป ก็เจอปฏิบัติการใหม่ล่าสุดจากบรรดาเจ้าหนี้ บริษัทหลักทรัพย์ 3 รายดำเนินการเอาหุ้นที่รับจำนำจากทั้งหมอวิชัย (โดยมีบางส่วนไม่มากนักเป็นของกลุ่ม นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์  หรือ เสี่ยอ๋า อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ตัดช่องน้อยลาออกไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ข่าวล่าสุดที่ได้รับการยืนยันคือ  ในวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม (พรุ่งนี้) หรืออย่างช้าไม่เกินสัปดาห์หน้า บริษัทหลักทรัพย์ 3 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด นัดกันไว้เรียบร้อยว่า จะลงประกาศในสื่อหนังสือพิมพ์เพื่อเปิดเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมประมูลหุ้นของ IFEC ที่เคยเป็นหุ้นในส่วนของทั้งหมอวิชัย และเสี่ยอ๋า

เพียงแต่…ส่วนใหญ่หุ้นที่จะถูกนำมาประมูลขายคือ หุ้นในชื่อหมอวิชัย จำนวน 57.50 ล้านหุ้น เนื่องจากเป็นหลักทรัพย์จำนำบัญชีมาร์จิ้น กับทางโบรกเกอร์ทั้ง 3 แห่ง คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 130 ล้านบาท

เรื่องมีอยู่ว่า เดิมทีนั้น หุ้นดังกล่าวอยู่ในข่ายที่กำลังจะถูกบังคับขายในวันที่ 13 มกราคมปีนี้ แต่บังเอิญไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากวันที่ 12 มกราคม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์พอดี

แหล่งข่าวระดับสูงปนเตี้ยยืนยันว่า หลังจากถูกขึ้นเครื่องหมาย SP หมอวิชัยไม่ได้มีการประสานงานกับเจ้าหนี้ เพื่อเพิ่มหลักทรัพย์ค้ำแต่ประการใด …ตามกฎกติกาแล้ว หากหุ้น IFEC ติดเครื่องหมาย SP เกิน 6 เดือน โบรกเกอร์ทั้ง 3 รายในฐานะเจ้าหนี้สามารถดำเนินการเอาหุ้นออกมาประมูลขายทอดตลาดได้

ข้อมูลผู้ถือหุ้นของทาง IFEC ณ วันที่ 20 เมษายน 2560 ระบุว่า หมอนายวิชัยถือหุ้นอยู่จำนวนทั้งหมด 57,881,638 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนจำนวน 2.86% ซึ่งเท่ากับจะเหลือหุ้นในมือหมอวิชัยหลังจากการประมูลขายครั้งนี้เสร็จสิ้นเพียงแค่  0.33%

เป็นประธานกรรมการบริษัท มีอำนาจสารพัด …(ยกเว้นทำให้ธุรกิจมีกำไร)..แต่ถือหุ้นแค่นี้ …เก่งจริงๆ ไม่มีความสามารถห้ามลอกเลียนแบบ

สาเหตุเพิ่มเติมที่เจาะลึกมา เหตุที่โบรกเกอร์ทั้ง 3 จำต้องนำหุ้นออกมาประมูลขายถอดตลาดมาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย NP เพราะ IFEC ไม่สามารถแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบให้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนดได้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 เป็นเวลา 3 เดือน หรือภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ..หากเกินนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศว่า IFEC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน

บรรดาโบรกเกอร์เจ้าหนี้ พากันหารือแล้วใช้ดุลยพินิจ เชื่อว่า…หมอวิชัยไม่อยากให้หุ้น IFEC ปลดเครื่องหมาย SP แล้วเพราะกลัว จะถูกบังคับขาย .. ทำให้เกิดฉันทามติเอาหุ้นที่รับจำนำมาประมูลขายเสียเลย…จำเป็นต้องเชือด

คาดหมายกันว่า หากขายแบบประมูลขายหุ้น น่าจะทำให้ราคาหุ้น อยู่ที่ 3.10 บาท/หุ้นขึ้นไป…ที่สำคัญ หมอวิชัยเองหรือใครๆ หากมีเงินสดก็สามารถ …นำเงินมาประมูลซื้อหุ้นไปได้

หากประเมินกันเบื้องต้น คาดว่าจะได้รับเงินขั้นต่ำจำนวน 178.25 ล้านบาท..แต่ถ้าได้เงินไปแล้วยังไม่พอคุ้มหนี้ ก็คงต้องเรียกหนี้เพิ่มในระยะยาว

คำถามคือ จะเหลือเงินที่คุ้มมูลหนี้หรือไม่…คำตอบอยู่ที่โบรกเกอร์ทั้งสามราย และหมอวิชัย…ของพรรค์นี้กินในที่ลับ ก็ต้องไขในที่แจ้ง…เดี๋ยวได้ฮา

อิ อิ อิ