ส่อง 5 ปัจจัยมีผลต่อตลาดฯวันนี้ ชูกลยุทธ์ลงทุนหลังดัชนีขึ้นแรง

ส่อง 5 ปัจจัยมีผลต่อตลาดฯ วันนี้ ชูกลยุทธ์ลงทุนหลังดัชนีขึ้นแรง


บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ค.) โดยคาดดัชนีฯ มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อจากวันก่อน โดยการแถลงนโยบายการเงินครึ่งปีของประธาน Fed  ต่อสภาผู้แทนฯในคืนที่ผ่านมา ทาง Fed ไม่ได้รีบเร่งในการปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือลด QE ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง แต่ยังคงเห็นว่า แรงซื้อที่เข้ามาจะยังไม่อ่อนแอนัก เพราะไม่วันใดวันหนึ่งในปีนี้ Fed ก็ต้องทำการลด QE อยู่ดี การชะลอจึงให้ตลาดบวกในสั้นๆ

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่กลับมาเหนือ $45 เหรียญ และการรายงานผลประกอบการของแต่ละตลาด ยังเป็นตัวแปรเฉพาะกลุ่มและเฉพาะตัว สำหรับปัจจัยในประเทศ เรามองในเชิงบวกมากขึ้นหลังธนาคารเริ่มนำส่งงบและแนวโน้ม GDP ที่ดีขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน : เรามองตลาดดีขึ้น แต่คงไม่แรง เป้าสั้นๆ ยังคงจำกัดไว้เพียง 1,590 เพราะน้ำหนักของปัจจัยบวกยังน้อย เรายังแนะนำให้นักลงทุนถือเงินสด เพิ่มจาก 40 เป็น 30% เพื่อเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มบวก เราให้ความสนใจกับ หุ้นงบไตรมาส 2/60 ที่คาดจะออกมาดี และหุ้นมีข่าวบวก (เก็งกำไรช่วงสั้น) ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคาร การรายงานงบการเงินของ TISCO ที่ออกมาดีตามคาด น่าจะส่งอานิสงค์มาถึงหุ้นธนาคารตัวอื่นๆด้วย

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

– ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (12 ก.ค.) SET Index ปิดที่ระดับ 1,574.93 จุด เพิ่มขึ้น 5.69 จุด หรือ +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 50,069.31 ล้านบาท ปรับตัวขึ้นสูงนำโดยกลุ่มแบงก์และสื่อสารฯ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มเข้ามาเก็งกำไรสำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 2 โดยกลุ่มแบงก์จะเป็นกลุ่มแรกที่ทยอยประกาศผลการดำเนินงาน วานนี้ TISCO ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด

– ตลาดหุ้นต่างประเทศ – ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 21,532.14 จุด ปรับตัวขึ้น 123.07 จุด หรือ +0.57% ทำจุดสูงสุดใหม่ ตลาดฯได้แรงหนุนจากคำแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดที่ระบุว่า เฟดอาจจะทำการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามา เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น +1.5% ปิดที่ 384.90 จุด

– ราคาน้ำมันดิบเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ +1% ปิดที่ 45.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงกว่าคาด ในขณะที่รายงานการผลิตน้ำมันเดือน มิ.ย. ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น

– ความกังวลต่อการลด QE น้อยลง ปัจจัยต่างประเทศเป็นบวก จากคำแถลงของเยลเลน เราประเมินว่า ความเสี่ยงต่อตลาดเริ่มน้อยลง โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เริ่มน้อยลงไป เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯอยู่ที่ 1.4% ต่ำกว่าที่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ในขณะที่การลด QE ของเฟดผ่านการลดขนาดงบดุลจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป

– ปัจจัยในประเทศยังเป็นเรื่องการเก็งกำไรงบ 2Q17 แรงซื้อสำหรับการเก็งกำไรงบ 2Q17 เริ่มเข้ามามาก จากปริมาณการซื้อขายหุ้นกลุ่มแบงก์ที่สูงขึ้นวานนี้   ซึ่งในวันนี้จะเป็นการประกาศผลการดำเนินงาน DTAC ซึ่ง consensus คาดไว้ที่ 197 ล้านบาท (+53% YoY, -14% QoQ)

Back to top button